รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 15 พ.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ปิดตำนาน“ตู่ติงลี่” เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ไทย
มาเฟียทหาร ผู้มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วอย่างสงบ เมื่อค่ำวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา
เขาคือ “ตู่ ติงลี่” ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ
ชีวิตโลดแล่นในยุทธจักรผู้กว้างขวางในเมืองหลวงโดยมีบ่อน “ปอ ประตูน้ำ” เป็นฐานที่มั่นสำคัญ แล้วออกเดินสายไปถึงบ่อนเขมรประจำ แต่วาระสุดท้าย ล้มป่วยเป็นอัมพาต ก็กลับมาตายรังในถิ่นเดิม ละแวกบ่อนประตูน้ำ ในวัย 73 ปี
ตู่ เมตตา มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร นั่นก็มีที่มาจากที่เขาชื่นชอบคลั่งไคล้ในตัวตนของ “ติงลี่” พระเอกใน “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ซีรีส์จีนที่เคยโด่งดังมากในเมืองไทย
เขาคิดอยากเป็นติงลี่เหมือนในหนัง จึงถอดแบบ “ติงลี่” ออกมาทุกกระเบียดนิ้ว เปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองด้วยการไว้ทรงผมเรียบชุ่มด้วยน้ำมันตันโจ ไว้หนวด ใส่สูท ยามเดินทาง ออกแบบเป็นขบวนใหญ่อลังการ ย่างก้าวน่ายำเกรงในมาดของติงลี่ เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
บางครั้งบางคราว แม้อากาศจะร้อนตับแลบแทบเป็นลม ตู่ ติงลี่ก็ยังใส่สูททักสิโด้ไปทุกงาน จนได้สมญา “ตู่ ติงลี่” มาตั้งแต่นั้น
ความจริง ชีวิตเขาเป็นมาเฟียทหาร ที่ไต่เต้าจากชั้นประทวน แตกต่างจาก เสธ.คนดังทั้งหลาย
“ตู่ ติงลี่” เริ่มต้นจากจุดต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุดของกองทัพ คือเป็นทหารเกณฑ์ จากนั้นรับราชการต่อจนได้เป็นนายสิบ
แต่ก็เป็นนายสิบ ที่เส้นใหญ่เลยทีเดียว เมื่อได้เป็นคนขับรถของ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ที่เคยมีอำนาจยาวนานในยุคเผด็จการ “ถนอม-ประภาส”
แม้การเป็นมาเฟีย ในมาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ จะดูเหมือนละคร แต่ “ตู่ ติงลี่” เป็นของจริง
เริ่มงาน กับสายบู๊เป็นการ์ด เป็นนักเลงคลับบาร์ย่านถนนพัฒน์พงษ์ จนเป็นขาใหญ่อยู่ที่บาร์โออาร์ บาร์เต้นอะโกโก้ที่ดังที่สุดในช่วง 40 ปีก่อน
ขาใหญ่ที่คุมบาร์พัฒน์พงษ์มาด้วยกันกับตู่ ติงลี่ คือ “พล 357” คนนี้จะใช้ปืนสั้นลูกโม่ขนาด .357 แม็กนั่ม เป็นอาวุธประจำกาย
ตอนหลัง “พล 357” ได้เป็นคนสนิทของเสธ.แอ๊ว พล.อ.อัครเดช ศศิประภา ผู้เป็นเจ้าพ่อเหนือเจ้าพ่อ พอมีฐานะร่ำรวย เขาก็ล้างมือจากวงการ
ขณะที่ “ตู่ ติงลี่” ยังโลดแล่นมยุทธจักรนักเลงเมืองหลวงต่อไป โดยเขาก็เป็นลูกน้องของ เสธ.แอ๊วเช่นกัน ในยุคที่เสธ.แอ๊ว คุม สห.ทบ.
ตู่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบ่อนปอ ประตูน้ำ และบ่อนอื่นๆ ในกทม. บ่อนหลายแห่งต้องส่งส่วยให้เขาเป็นรายเดือน รวมทั้งมีค่าน้ำร้อนน้ำชากับสถานบริการทั่วไปในกรุงเทพฯ
เขาเป็นทหารยศจ่า แต่อัพเกรดตัวเองจนเป็นมาเฟียใหญ่ สร้างทีมงานทหารและพลเรือนนักเลง รับจ้างทวงหนี้ เคลียร์ปัญหาความขัดแย้งในวงการธุรกิจทั่วไป
งานที่รับรู้กันทั่วยุทธจักรนักเลงเมืองหลวง คือ ตู่ ติงลี่เคยรับจ้างดูแล “หมอเส็ง สมุนไพร” ผู้ร่ำรวยจากว่านชักมดลูก และเป็นคนที่ไว้วางใจตู่มาก
อีกคนที่ใช้บริการประจำ คือ “โหงว เอ๊กซ์โอ” ที่เป็นนายทุนเงินกู้บ่อนในกทม. ก็ให้ทีมงานทหารนักบุญของตู่คุ้มครอง
ช่วงท้ายๆ ที่เป็นมาเฟียเฒ่าแล้ว “ตู่ ติงลี่” ยังไม่สิ้นเขี้ยวเล็บ ปะทะกับทหารมาเฟียหนุ่มที่กำลังดังในยุคนี้ เปิดศึกแย่งชิงที่ดินบนถนนพหลโยธิน ย่านแดนเนรมิต ยื้อกันอยู่นานแบบไม่มีใครยอมใคร
จนสุดท้าย ฝ่ายมาเฟียรุ่นเก๋าได้รับเงินตอบแทนไปก้อนใหญ่ ตู่ก็นำเงินไปเสี่ยงโชคประจำในบ่อนเขมร สถานที่โปรดปรานของเขา
กระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน เขาพลาดล้มศีรษะฟาดฟื้น จนกลายเป็นอัมพาต ต้องนั่งรถเข็นตลอด ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ล้อ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
เหลือไว้แต่ตำนานให้เล่าขาน ในฐานะเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เมืองไทย