xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “บิ๊กตู่-ธรรมนัส” เคลียร์ใจ พักรบ ซื้อเวลา รอวันแตก?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ตอน “บิ๊กตู่-ธรรมนัส” เคลียร์ใจ พักรบ ซื้อเวลา รอวันแตก?



รายการงัดข้อ ผู้กองนัสกับบิ๊กตู่ เริ่มมีสัญญาณที่จะสงบศึกกันได้แล้ว เมื่อ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ยอมรับว่าได้พูดคุยกับ “ผู้กองมนัส”ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. หลังที่เกิดศึก “สายเลือด ” ขึ้นมา ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

แต่การปรับจูนหากันนั้น “บิ๊กตู่” ยังไว้เชิงตัวเองระบุว่า “เขาเคยมาคุยด้วยครั้งหนึ่ง ก็คุยกันดี” ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะเป็นปึกแผ่น และเป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาลมากขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้คิดต่อว่า “ถ้าไม่มีใครยุแยงตะแคงรั่ว ก็ดีอยู่”
.
แน่นอนว่า “บิ๊กตู่” พุ่งเป้าไปที่ “ตัวใส่ไฟ” แม้ไม่ได้บอกว่าใคร เพราะงานนี้มีคน “ถูกหมายหัว” จำนวนหนึ่ง ที่เห็นชัดก็สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ตึกไทยคู่ฟ้า คือพวก “6 รัฐมนตรี” ขั้วตรงข้าม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์

อันนำมาซึ่ง “ปฏิบัติการกดดัน” ให้ ร.อ.ธรรมนัส พ้นเลขาธิการ พปชร. ผ่านการให้กรรมการบริหาร พปชร. ลาออกครึ่งหนึ่ง เพื่อเปิดทาง “ล้างไพ่ใหม่”

แต่สุดท้ายแผนไปไม่ถึงฝัน หลัง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พลังประชารัฐ ยังคง “อุ้ม” ร.อ.ธรรมนัส ไว้อยู่นั่นเอง โดยใช้ “แบบสอบถาม” ส่งให้ ส.ส. ของพรรคสะท้อนความในใจ

เพื่อ “เปิดใจ” ระบายสิ่งต่างๆ และตอบคำถามต่างๆ หนึ่งในนั้นคือเห็นสมควรให้ใครเป็น “หัวหน้า-เลขาธิการพรรค” ต่อไป ซึ่งผลยังคงเป็น “บิ๊กป้อม-ผู้กองมนัส”

ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมถอย “กลืนเลือด” เพราะเป็น “มติพรรค” ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำนักย้ำหนาในการ “ขีดเส้น” การรับผิดชอบกับ “บิ๊กป้อม” ที่จะไม่ “ล้ำเส้น” กัน ในการดูแลพรรคกับรัฐบาล ที่แบ่งหน้าที่กันชัดเจนมาแต่ต้น

แต่การอุ้ม ร.อ.ธรรมนัส ไว้ของ “บิ๊กป้อม” ส่วนหนึ่งก็เพื่อป้องกันสภาวะ “ขาลอย” เพราะไม่เช่นนั้นก็จะถูกฝั่ง “บิ๊กตู่” รุกคืบเข้ามาในพรรค กลายเป็นว่าภายในพรรคจะมี “ขั้วใหญ่” เกิดขึ้นอีก

ที่ผ่านมาทั้ง “2ป.” ก็เลือกสลายขั้วใหญ่ไปแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ “มุ้งสี่กุมาร” และ “มุ้งสามมิตร” ที่นำมาสู่การเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและเลขาธิการใหม่นั่นเอง

ในกรณี “ผู้กองมนัส” ที่เคยปฏิบัติการ “ล้มนายกฯ” ก่อนหน้านี้ ก็เป็นเรื่องที่ “กระตุกหนวดเสือ” ยิ่งนัก อันนำมาสู่การปลดพ้น รมต. ชนิดฟ้าผ่า ซึ่งเป็นการ “ฟาดฟัน-แก้แค้น” กันไปมา ไม่จบไม่สิ้น
.
สำหรับการพูดคุยระหว่าง “บิ๊กตู่” กับ “ผู้กองนัส” ที่มี “บิ๊กป้อม” เป็นคนกลางเกิดขึ้นราว 3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดช่วงการตั้ง “นิโรธ สุนทรเลขา” ขึ้นเป็น ประธานวิปรัฐบาล คนใหม่ นั่นเอง

โดยการพูดคุยครั้งล่าสุดมีกระแสข่าวว่า “บิ๊กตู่” ติดต่อกับ ร.อ.ธรรมนัส โดยตรงเลย จึงเป็นที่มาของคำตอบในการยอมรับว่า มีการพูดคุยเกิดขึ้นจริง ซึ่งแตกต่างจากที่ผ่านมาที่ “บิ๊กตู่” มักปฏิเสธ หรือตัดบทในการตอบคำถาม
.
แม้ว่าจะมีการ “เคลียร์ใจ” เกิดขึ้น จนทำให้สถานการณ์ดีขึ้นบ้าง แต่เชื่อได้ว่าก็จะเกิดเรื่องขึ้นอีก เพราะภายใน พปชร. มี “คลื่นใต้น้ำ” ที่พร้อมปะทะอยู่ตลอด หลังแต่ละฝ่ายเปิดหน้าชกชัดเจน

บางคู่ถึงขั้น “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” แต่ก็ทน “กัดฟัน” อยู่ด้วยกัน ตราบใดที่ “ผลประโยชน์-อำนาจ” ลงตัวและเดินไปได้ จึงเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างอยู่ในที่ตั้งตัวเอง ภายใต้ปีก “2ป.ประยุทธ์-ประวิตร” ที่รอวันปะทุ

เฉกเช่นพรรคเพื่อไทยที่เผชิญมาก่อนหน้านี้ สุดท้ายก็ต้องทางใครทางมัน เพราะยากที่ไปด้วยกันได้

ดังนั้น จึงอยู่ที่ “2ป.” จะเคลียร์กับ “ผู้กองนัส” อย่างไร เพราะในส่วน ร.อ.ธรรมนัส ก็ถูกจับตาว่าจะย้ายรังหรือไม่ เพราะมีพรรคเล็กที่อยู่ในเครือข่าย ร.อ.ธรรมนัส อยู่จำนวนหนึ่ง แสตนบายพร้อมถูกใช้เป็นพรรคใหม่รองรับ

ท่ามกลาง “แผลทางใจ” และ“รอยร้าว” ที่เต็มไปหมด ยากจะผสานกลับมา คาดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงการ “พักรบ” เท่านั้น เพราะหากยังดันทุรังสู้กันต่อไป ก็มีแต่ “แพ้” กับ “แพ้” เท่านั้น และจะ “พัง” ไปทั้งหมด “3ป.” นั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น