กอ.เห็นชอบตั้ง 7 กก.สอบวินัยร้ายแรง เนตร นาคสุข สั่งไม่ฟ้อง “บอส-วรยุทธ” ขับรถชนตำรวจทองหล่อเสียชีวิต ส่วนอัยการน่านสั่งฟ้องแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ไม่ทัน อสส.กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (18 ต.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธาน การประชุม ก.อ. โดยมีวาระสำคัญ การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข อดีต รอง อสส. กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา คดีขับรถชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต
นายพชร เปิดเผยว่า หลังจากที่การประชุม ก.อ.ครั้งที่แล้ว นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธานคณะกรรมการ ในวันนี้ตั้งคณะกรรมการสอบเพิ่มเติมขึ้นอีก 6 คน รวมเป็น 7 คน และย้ำให้ดำเนินกาาสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะเป็นการสอบสวนเพิ่มเติมจากคราวที่แล้ว ที่เคยตั้งเรื่องความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ซึ่ง ก.อ.มีความเห็นว่า ควรจะเป็นความผิดวินัยร้ายแรงจึงตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพราะฉะนั้น ข้อเท็จจริงของเป็นไปตามเดิม คงไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่า สอบให้รัดกุมมากขึ้น ว่าการผิดวินัยร้ายแรงเป็นอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมายที่กำหนด แต่ตอนคิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน คือ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ (ก.อ.สายบำนาญ) เเละ กรรมการ 6 คน ประกอบด้วย 1. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุด (ก.อ.โดยตำเเหน่ง) 2. นายเชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ อธิบดีอัยการภาค 4 รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ 3. นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานปกครองเพชรบุรี รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 7 (ก.อ.) 4. นายอนุชา วัฒนวิภา อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการอัยการ รักษาการในตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ 5. พ.ต.ต.สันติ มุริจันทร์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้ช่วยเลขานุการอัยการ และ 6. นายมั่นเกียรติ ธนวิจิตรพันธ์ ผู้ตรวจการอัยการ
ซึ่งทุกท่านผ่านงานราชการมามาก มีทั้งผู้ที่เคยผ่านสำนักงานคดีพิเศษและบางคนเป็นคณะกรรมการร่างกฎหมายหลายฉบับ เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องการสอบสวน เชื่อว่า คณะการการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข จะสอบสวนเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 60 วัน ซึ่งสามารถขอขยายเวลาสอบเพิ่มได้อีก 2 ครั้ง รวมแล้วไม่เคย 180 วัน
นายพชร กล่าวอีกว่า เราต้องการสอบสวนให้รัดกุมเพื่อจะขยายไปถึงอัยการชื่อย่อ ช. ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์ของนายวรยุทธ หรือ บอส และถ้าหากรู้ว่าเป็นใครก็จะต้องกรรมการสอบสวนชั้นต้น อัยการคนนั้นอีกครั้ง เพื่อแยกกันดำเนินการให้รวดเร็ว โดยการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนชุดนี้มีความอิสระ ให้อำนาจพิจารณาอย่างเต็มที่
สำหรับกระแสข่าวเรื่องการขอลาออกของ นายเนตร นาคสุข และอัยการชื่อย่อ ช.นั้น ตนทราบว่าอัยการสูงสุดยังไม่เซ็นอนุมัติให้ลาออก แต่ถึงลาออกไป ก็ไม่น่ามีปัญหาเรื่องการสอบสวน เพราะกฎหมายให้อำนาจสอบสวนภายใน 180 วัน
นอกจากนี้ นายพชร กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่อัยการจังหวัดน่าน ยื่นฟ้องผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ไม่ทันกำหนด 84 วัน จนต้องปล่อยตัวไป ว่า ไม่ได้มีวาระนี้ในการประชุม ของ ก.อ.เพราะเรื่องนี้ สิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ โดยให้อัยการภาค 5 รายงานข้อเท็จจริง ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไร เรื่องนี้มีหน่วยงานเกี่ยวพันกันหลายหน่วยงาน อัยการสูงสุดจะต้องนำเหตุผลจากอัยการภาค 5 เพื่อมาสรุปว่าเหตุที่เกิดขึ้นตามข่าว เกิดขึ้นได้อย่างไร กรณีเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ขณะนี้เราไม่สามารถที่จะก้าวล่วงได้
ส่วนกรณีเรื่องการโปรดเกล้าฯ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ขึ้นเป็นผู้ตรวจการอัยการนั้น ขณะนี้ยังไม่โปรดเกล้าฯลงมา จะทรงโปรดเกล้าฯหรือไม่ก็เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ