xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเล่ห์ร้าย เจ้าแม่แชร์ ซ้อปลา มหาภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 15 ต.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดเล่ห์ร้าย เจ้าแม่แชร์ ซ้อปลา มหาภัย



“ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง” เป็นเจ้าแม่แชร์ออนไลน์รายล่าสุด ที่จนมุมตำรวจคดีฉ้อโกง มีเหยื่อกว่า 200 ราย ความเสียหายร่วม 60 ล้านบาท

น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธ์ หรือซ้อปลา ในวัย 25 ปี เป็นเจ้าแม่แชร์ออนไลน์ภูธร ที่ “เล่นใหญ่” เกินหน้าเจ้าแม่แชร์คนอื่นๆ จนเป็นข่าวดังมาตลอดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

เริ่มจากร่ำไห้ live สด เล่าว่าถูกตำรวจบุกค้นบ้าน ที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา แล้วนำเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำรูปพรรณ หนัก 60 บาท ไปตรวจนับที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง

ซึ่งคำว่า เซฟเฮ้าส์ของตำรวจสงขลา ก็กระตุ้นความรู้สึกมีภัยอันตรายได้อย่างดี เนื่องจากเมื่อปี 2558 เคยมีผู้ต้องหาผูกคอตายในเซฟเฮาส์ตำรวจสงขลา ในสภาพซี่โครงหัก ปอดฉีก จนผู้การจังหวัดและลูกน้อง โดนย้ายกราวรูด

ซ้อปลาเล่าต่อว่า ระหว่างนับเงิน ตำรวจก็เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว ซ้อปลายอมทำตาม จึงรอดกลับมาได้

ไม่เท่านั้น ซ้อปลา พร้อมทนายความ ยังเข้ายื่นหนังสือถึงนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อจัดหนักตำรวจเรื่องรีดเงิน ล้านดังกล่าว

เรียกว่า ซ้อปลาดำเนินการอย่างมีกลยุทธ์ ด้วยการเลือกร้องเรียนได้ถูกคนที่สุดแล้ว เพราะนายสิระ เจนจาคะ เป็นนักการเมืองแนวงับทุกเรื่องที่จะเป็นข่าวดัง โดยเฉพาะกับคดีในลักษณะนี้

เหมือนที่นายสิระเคยเปิดสภารับหนังสือร้องเรียนจาก “ลุงพล” ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมน้องชมพู่ จนถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนัก ที่ไหนมีแสง ที่นั่นมีสิระ เจนจาคะ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน นายจิระ เจนจาคะ ออกแอคชั่นฉับไว เรียกคนโน้นคนนี้ชี้แจง จนตำรวจตกเป็นจำเลยสังคมกลายๆ

มีการวิเคราะห์เล่ห์ร้ายของซ้อปลาว่า การกุเรื่องว่าถูกตำรวจไถเงินไปดังกล่าว ก็เพื่อเป็นบันไดปีนหนีลูกแชร์นั่นเอง จะได้อ้างว่าแชร์ล้มเพราะตำรวจกลั่นแกล้ง

โดยใช้เค้าโครงจากคดี “ผู้กำกับโจ้” รีดเงินผู้ต้องหา มาเป็นเครื่องมือโน้มน้าวให้สังคมคล้อยตาม

ไปๆมาๆ คดีรีดเงิน 5 ล้าน กลับโอละพ่อ ฝ่ายตำรวจออกมาชี้แจงว่า เป็นการเข้าตรวจค้นบ้านตามหมายค้นศาล เนื่องจากได้รับร้องเรียนพฤติกรรมซ้อปลา อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน

หลักฐานที่ทำเอาซ้อปลา “โป๊ะแตก” ก็คือภาพวงจรปิด โดยตำรวจให้ซ้อปลารีบนำเงิน 10 ล้านบาทดังกล่าวไปฝากธนาคารเพื่อความปลอดภัย พร้อมส่งรถติดตามคุ้มกันไปด้วยจนถึงธนาคาร

แต่เมื่อรถซ้อปลาไปถึงลานจอดรถธนาคาร ก็รีรอแค่ 3 นาที จึงออกรถไป โดยไม่ได้ลงมาฝากเงินแต่อย่างใด

ตำรวจเลยเอาคืน แจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท กุข่าว แบล็กเมล์ เรื่องรีดเงิน 5 ล้านบาท

พอถึงช่วงปลายเดือน ก.ย. แชร์ซ้อปลาก็ถึงคราวล่ม บรรดาลูกแชร์ที่กำลังตื่นตระหนกกลัวหนี้สูญ แห่ไปเจรจากันถึงบ้าน อยากได้เงินลงทุนของตัวเองคืน

แต่ซ้อปลาตั้งโต๊ะแถลงอย่างเยือกเย็น พูดย้ำๆ กับลูกแชร์ ตามสูตรเท้าแชร์มหาภัยทั้งหลายคือ “ปลาไม่โกง แต่ปลาถูกโกงอีกที”

เล่นเอาลูกแชร์คนหนึ่งฟิวส์ขาด เอื้อมมือไปจิกผมซ้อปลากระชากอย่างแรง จนเกิดชุลมุนชกต่อยกันระหว่างฝ่ายลูกแชร์กับการ์ดของเจ้าแม่แชร์

ซ้อปลายังล่อหลอกลูกแชร์ ด้วยการชวนให้มาพบ แล้วตัวเองจะยอมเซ็นสัญญากู้เงินจากลูกแชร์ เพื่อแสดงความความจริงใจ ยอมรับสภาพ ว่าตัวเองติดหนี้ลูกแชร์จริง

แต่นั่นก็แค่เล่ห์เพทุบายของซ้อปลา ที่แท้จะแปลงคดีอาญา ให้เป็นคดีแพ่ง

จริงๆ แล้ว ตำรวจจะทำงานคดีฉ้อโกงของซ้อปลาได้ง่ายกว่านี้ หากไม่มีนักการเมืองทะเล่อทะล่าเข้ามาเป็นข่าว โดยไม่คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ให้ดีในเบื้องต้นเสียก่อน ว่าใครดีใครร้าย

กลายเป็นว่า นายสิระ เจนจาคะ ก็เหมือนโดนคนชื่อปลา ที่เจ้าเล่ห์ระดับจิ้งจอก หลอกใช้เป็นเครื่องมือ ในการดิ้นรนต่อสู้

ประวัติของซ้อปลา เริ่มต้นหากินผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2561 ด้วยการหลอกขายทองคำ พอปี 2563 จึงเปิดบ้านแชร์ออมเงิน

เทคนิคในการดึงคนมาร่วมวงแชร์ ซ้อปลาก็ใช้วิธีการพื้นฐาน ที่ได้ผลมานานแล้ว และจะยังได้ผลต่อไป คือเล่นกับความโลภของคน

โพสต์ภาพตัวเองกับธนบัตรกองโต พร้อมเสนอผลตอบแทนล่อใจ ด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน หรือร้อยละ 240 ต่อปี

มีแชทไลน์หลุดออกมาด้วย ว่าซ้อปลาไม่มีทางคายเงินคืนให้ลูกแชร์อย่างแน่นอน เพราะได้จัดการโยกย้ายไปซ่อนจนหมดแล้ว และจะยอมรับสารภาพสิ้นในศาล หวังให้ตัวเองติดคุกไม่นาน

เพื่อจะพ้นโทษออกมาล้มบนฟูก บนคราบน้ำตาของลูกแชร์


กำลังโหลดความคิดเห็น