ตำรวจ สน.หลักสอง เรียกคนขับรถสองแถวสีส้ม วิ่งเส้นเดอะมอล์บางแค-วัดรางบัว รับทราบข้อหา พร้อมเสียค่าปรับรวม 1,500 บาท กรณีทำร้ายลุงเคาะกระจก ขอให้ขยับรถ
วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 30 ก.ย. พ.ต.ท.วัชพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สน.หลักสอง เรียกตัว นายเสน่ห์ มามาก อายุ 50 ปี โชเฟอร์รถสองแถว สีส้ม หมายเลขทะเบียน 15-9385 กรุงเทพมหานคร วิ่งให้บริการระหว่างเดอะมอลล์บางแค-วัดรางบัว เข้าพบ เพื่อแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท และข้อหาจอดรถกีดขวางการจราจร ปรับเป็นเงิน จำนวน 500 บาท
เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. นายเสน่ห์ ซึ่งกำลังจอดรถรอรับผู้โดยสารอยู่ด้านหน้าป้ายรถประจำทาง ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์บางแค แล้วถูก นายอริญชัย บงกชพร อายุ 65 ปี เดินไปเคาะกระจกขอให้เลื่อนรถออกจากป้ายรถประจำทาง เนื่องจากขึ้นรถเมล์ไม่สะดวก ทำให้ นายเสน่ห์ บันดาลโทสะ ลงจากรถเข้าชกต่อย นายอริญชัย ไปจำนวน 2-3 หมัด ก่อนแยกย้ายกัน และมีผู้นำคลิปภาพเหตุการณ์ มาลงเผยแพร่ในโลกโซเชียล
โดย พ.ต.ท.วัชพัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้ามาตกลงกันแล้ว ทางผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ จึงเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหา ซึ่งก็ยินดีเยียวยาชดใช้ให้แก่ผู้เสียหาย เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท ซึ่งนอกจากจะถูกดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย และจอดรถกีดขวางการจราจรแล้ว หลังจากนี้ นายเสน่ห์ ยังต้องถูกกรมการขนส่งทางบก เรียกเข้ารับการอบรม และปรับเป็นเงินอีกจำนวน 5,000 บาท
ด้าน นายเสน่ห์ เปิดเผยว่า พอหลังเกิดเหตุแล้วได้เข้าไปที่กรมขนส่ง เข้าไปรับทราบเรื่องโดนร้องเรียน โดนปรับไป 5,000 บาท แต่ตนเองก็ไม่มีเงินค่าปรับ เลยต้องยืมจากเถ้าแก่เสียค่าปรับไป และนั่งฟังอบรมอีก 3 ชั่วโมง เหมือนทำใบขับขี่ใหม่ ที่มาในวันนี้ก็จะมาขอโทษลุงที่ตนเองได้ทำร้าย และใช้คำไม่สุภาพไป และลุงยังไม่เอาเรื่อง ก็สำนึกผิดแล้ว
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ที่กระทำไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ เพราะวันเกิดเหตุพาลูกนั่งไปด้วย แล้วช่วงที่ลุงมาเคาะมาทุบกระจกรถ ทำให้ลูกตกใจร้อง จึงโมโหลงจากรถไป พร้อมทั้งยอมรับว่า ผิดจริงที่จอดรถขวางทางป้ายรถเมล์ และยังใช้วาจาไม่สุภาพ ทำร้ายร่างกายลุงอีก วันนี้ ต้องขอโทษลุงด้วยที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และขอบคุณลุงที่ไม่เอาเรื่อง ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน
ด้าน นายอริญชัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายรถประจำทาง ก่อนจะมีรถสองแถวมาจอดอยู่ตรงป้าย ตนเองก็เดินไปโบกทำมือให้เลื่อนไปหน่อย รถเมล์จะจอด เพื่อตนเองจะขึ้นรถ ถ้ารถสองแถวจอดคาอยู่ แล้วตนจะขึ้นรถยังไง ซึ่งตนเองก็โบกมือ บอกดีๆ แต่เขาก็ตะโกนให้ของลับ จากนั้นก็เดินไปเคาะกระจกฝั่งซ้ายไม่ได้เคาะแรง เคาะบอกดีๆ ว่า เลื่อนรถไปหน่อย แต่กลับถูกด่าอีก จากนั้นเขาก็ลงรถมาต่อยจนตนเองล้มลง ก่อนจะมีคนมาช่วยห้ามไว้
กระทั่งรถเมล์มาตนเองจึงรีบขึ้นรถเมล์ไป แต่พอกลับมาถึงที่บ้านเห็นข่าวออกทีวี จึงเดินทางมาวันนี้เพื่อแสดงตนว่า จะไม่เอาเรื่องกับคู่กรณี เพื่อให้เขาได้ทำมาหากินต่อไป และไม่อยากให้ไปทำกับคนอื่นแบบนี้อีก ขอให้ใจเย็นๆ ซึ่งเมื่อวานนี้ ตนเองก็รักษาตัวอยู่บ้าน เพราะโดนต่อยจนหน้าบวมไปซีกนึง แต่ถ้าเขาจะขอโทษก็จะรับคำขอโทษ และไม่เอาเรื่อง แค่ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก