MGR Online - โฆษก บช.น.เตือน ม็อบทะลุแก๊ส ชุมนุมเย็นนี้ ผิดกฎหมาย รวบแล้ว 9 คน ป่วนแยกนางเลิ้ง เตรียมออกหมายเรียก “ป้าเป้า” แก้ผ้าประท้วงต่อหน้า คฝ.ดำเนินคดี มาตรา 388 และอีก 2 ข้อหา กลุ่มทะลุแก๊ส ยังป่วนดินแดง เผารถตำรวจ 8 คัน รู้ตัวแล้ว 5 คน อีกไม่กี่วัน ใช้มาตรการเข้มข้นมากขึ้น ตามที่เคยลั่นวาจาต้องจบภายในสิ้นเดือนนี้ ประสานหน่วยงานยุติธรรมช่วยแก้ปัญหา ยังไม่จำเป็นร้องขอกำลังทหาร ชี้ ตอนนี้ภาพรวมสามารถควบคุมได้ ไม่ถึงขั้นก่อจลาจล ผบ.ตร.วางแนวทาง ผบช.น.คนใหม่ ให้การปฏิบัติมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในวันนี้มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองของ กลุ่มทะลุฟ้า เวลา 16.00 น. ที่แยกนางเลิ้ง แล้วเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล บช.น.เตือนว่า กรุงเทพฯประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ”ได้จัดกำลังตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรไว้แล้ว
สำหรับการชุมนุมของ 2 กลุ่ม เมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) ที่แยกนางเลิ้ง เวลา 16.00 น. กลุ่มทะลุฟ้า ได้ปิดการจราจรบางส่วนแล้วนำถุงสีวางไว้บนถนน นำป้ายผ้ามาแขวนไว้บริเวณต่างๆ เวลา 17.00 น. ผู้ชุมนุมพยายามตัดและฝ่าฝืนรั้วลวดหนาม ที่ตำรวจวางไว้เป็นแนวป้องกันการบุกรุกเข้าไปทำเนียบฯ จึงประกาศแจ้งเตือนให้ยุติการชุมนุม เวลา 18.00 น. ตำรวจเข้าจับกุมผู้กระทำผิด 9 คน ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ”
ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 22.50 น. กลุ่มทะลุแก๊ส ได้ปิดการจราจรบริเวณถนนมิตรไมตรี จุดเพลิงเผาสถานที่ต่างๆ ระดมยิงพลุ ขว้างปาระเบิดใส่ตำรวจ และรถตำรวจจนเสียหาย 8 คัน ในจำนวน 2 คัน ถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน 1 คัน และไหม้บางส่วน 1 คัน ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์”หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น.ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน เบื้องต้นรู้ตัวผู้ก่อเหตุเผารถแล้ว ประมาณ 4-5 คน
ส่วนเหตุใดตำรวจไม่เลือกขับรถในเส้นทางอื่น ทั้งที่รู้ว่ามีการชุมนุม ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เพราะผู้ชุมนุมได้ก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์บริเวณดังกล่าว ตำรวจมีความจำเป็นต้องเข้าดับเพลิง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายบานปลาย ระหว่างนั้นผู้ชุมนุมอาศัยจังหวะที่ตำรวจเตรียมปฏิบัติการเข้าทำร้ายตำรวจ ทั้งนี้ สรุปการดำเนินคดีตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 รวมทั้งสิ้น 236 คดี มีผู้ต้องหา 878 ราย ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 633 ราย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณีมีการพ่นสีก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการ และเอกชนจะเป็นความผิดข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ส่วนกรณีที่ ป้าเป้า ถอดเสื้อผ้าเปลือยเปล่าต่อหน้าแนวตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่แยกนางเลิ้ง ขณะนี้ตำรวจ สน.นางเลิ้ง อยู่ระหว่างออกหมายเรียกเข้ารับทราบข้อหา “ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น มาตรา 388”นอกจากนี้ มีความผิด “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ”เช่นเดียวกับผู้ชุมนุมคนอื่น
แนวโน้มหลังจากนี้เป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุทั้งที่แยกนางเลิ้ง และแยกสามเหลี่ยมดินแดง ส่วนการชุมนุมจะสิ้นสุดภายในพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ตามที่เคยกล่าวไว้หรือไม่ ขณะนี้ผู้ชุมนุมมีจำนวนไม่มาก อีกไม่กี่วันตำรวจจะใช้มาตรการที่เข้มข้นทางกฎหมายมากขึ้น โดยประสานงานกับหน่วยงานอื่นของกระบวนการยุติธรรม อาทิ อัยการ ศาล และทนายความ ช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เนื่องจากตำรวจหน่วยเดียวไม่สามารถรักษาความสงบในภาพรวมของประเทศได้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องร้องขอกำลังทหารเข้ามาสนับสนุน
“ตำรวจปรับยุทธวิธีรักษาความสงบเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้เป็นประธานฝึกซ้อมภารกิจควบคุมฝูงชน รวมถึงให้คำแนะนำทั้ง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.คนปัจจุบัน และ พล.ต.ต.สําราญ นวลมา รอง ผบช.น.ว่าที่ ผบช.น.เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากขึ้น” รองฯ ต๊ะ กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า การก่อเหตุจะถึงขั้นจลาจลได้หรือไม่ ภาพรวมในตอนนี้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ จากการปฏิบัติทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้นทำให้จำนวนผู้ชุมนุมลดลง จึงเป็นโอกาสในการสร้างเงื่อนไขด้วยการทำให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน อยากให้มองว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ผู้ชุมนุม เพราะละเมิดกฎหมายในหลายบทบัญญัติ ตนมั่นใจว่า หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ คงจะมอง และมีมาตรการเช่นเดียวกับตำรวจ