ประธานสอบวินัยร้ายแรง “เนตร นาคสุข” สั่งไม่ฟ้อง “บอส-วรยุทธ” ยันจะทำสิ่งที่ถูกต้องเหมือนที่เคยทำมาในอดีต แม้เป็นอันการรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่หากผิดจริงมีโทษ ไล่ออก-ปลดออก
วันนี้ (22 ก.ย.) ความคืบหน้าภายหลัง นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ได้เสนอให้ตั้ง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ กรรมการอัยการ อดีตอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์เฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555
โดย นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ ประธานกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข เปิดเผยว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานสอบวินัยร้ายแรง ตนจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตรวจสอบได้ อย่างที่ตนเคยทำ ระหว่างการสอบจะ ให้ใครมาแทรกแซงการสอบไม่ได้ จะมาขอรู้ผลขอทราบความคืบหน้าไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา ตนเป็นนักกฎหมาย นักกฎหมายทำอะไรตามกฎ เมื่อมีกฎมีข้อบังคับก็ทำตามนั้น สำหรับนายเนตรนาคสุข เป็นอัยการรุ่นน้อง และเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนมัธยมด้วย เขาเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย ก็เป็นรุ่นพี่รุนน้องกันก็รักกัน แต่ว่าถึงคราวจะต้องสอบ เราก็ต้องสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ท่านเกษียณราชการไป จากตำแหน่งอัยการอาวุโสมาแล้ว 2 ปี ภาพลักษณ์องค์กรอัยการเป็นอย่างไร
นายธนพิชญ์ กล่าวว่า จากการติดตามข่าวผ่านสื่อมีข่าวความไม่สุจริตของพนักงานอัยการบางคนบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตามรายละเอียดมาก ภาพรวมขององค์กร ก็อยากให้มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ตอนนี้ตนยังทำหน้าที่เป็นกรรมการอัยการอยู่ ก็จะทำอย่างเต็มที่ตราบใดที่อยู่ในวาระ เพราะปัจจุบันกฎหมายระเบียบข้าราชการอัยการ ให้เป็นกรรมการได้รอบเดียวเท่านั้น
“เมื่อวานเป็นเพียงมติที่ประชุม ตั้งให้ตนเป็นประธานกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ยังไม่มีหนังสือคำสั่งออกตามมา ตนจึงยังไม่ได้ตั้งคณะทำงาน ซึ่งกรรมการแต่ละคนต้องเคยมีตำแหน่งเหนือหรือเท่านายเนตร และยังไม่เริ่มลงมือสอบ แต่เวลานี้เอกสารที่เกี่ยวข้องได้ถูกเรียกเข้ามาหมดแล้วไม่ว่า เอกสารชุดที่ท่านศาสตราจารย์ วิชา มหาคุณ สอบไว้ และเอกสารชุดของนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ส่วน นายเนตร ก็จะมีหนังสือเรียกมาให้การ เขาอาจจะขออ้างพยานบุคคลเข้ามาก็ได้ ล่าสุด เขาเคยยื่นใบลาออก แต่อัยการสูงสุด ยังไม่อนุมัติผล คือ ยังเป็นข้าราชการอัยการอาวุโสอยู่ และหากฟังว่าผิดก็มีโทษถึงไล่ออก ปลดออก ให้ออกหากมีการสอบสวนคดีอาญาเรืี่องนี้ไม่ว่าทาง ป.ป.ช.หรือ สตช. ก็อาจขอสำนวนของเราเข้าไปในคดีก็ได้ คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจเรียกอัยการทุกคนมาให้ข้อเท็จจริงได้ แต่ถ้าเป็นบุคคลภายนอก คงเรียกมาไม่ได้” นายธนพิชญ์ กล่าว
