รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 20 ก.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ครูชลธี ธารทอง รักเหมือนยาขม บ้านแตกแพ้เมีย
นายสมนึก ทองมา หรือ ชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติ ปี 2542 สาขาศิลปะการแสดง ล่าสุดตกเป็นข่าวอื้อฉาวอีกครั้ง เมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จ.กาญจนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ให้ ครูปุ้ม นางศศิวิมล ทองมา อายุ 51 ปี ภรรยา ที่ถูกต้องตามกฎหมายของครูเพลงคนดัง เป็นฝ่ายชนะคดี ยืนตามศาลชั้นต้น
คดีที่ครูปุ้ม ยื่นฟ้อง “เกด” น.ส.สกุลนัฐธิดา แจ้งประสงค์ อายุ 30 ปี เลขาคนสนิทของครูชลธี ธารทอง เรียกค่าเสียหาย 3 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5
โทษฐานเป็นตัวการทำให้ครอบครัว “ครูชล-ครูปุ้ม” ต้องแตกแยกกัน
เรื่องราวของครูเพลงและศิลปินแห่งชาติ ในวัย 84 ปี ตกเป็นข่าวอื้อฉาวเชิงลบมาตลอด 2-3 ปีหลังมานี้ นับแต่ “เกด” เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของครูชลธี
เป็นทั้งเลขาคนสนิท เป็นทั้งคนขับรถ และๆเป็นอะไรๆ อีกหลายอย่าง
แม้ทั้งคู่จะแก้ข่าวปฏิเสธพัลวันว่า เป็นความสัมพันธ์อันบริสุทธิ์ใจ ในฐานะศิษย์ที่เคารพศรัทธาครู ครูชลธีก็อ้างสมภารไม่กินไก่วัด ไม่ใช่เรื่องฉันชู้สาวอย่างที่คนเมาธ์กระหึ่มไปทั้งเมือง
แต่ความเปลี่ยนแปลงรุนแรงก็เกิดขึ้นกับชีวิตของครูชลธี เริ่มจากยื่นฟ้องหย่าครูปุ้ม ภรรยาคนที่ 2 ที่จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกันมายาวนานถึง 30 ปี
ฟ้องหย่ารอบแรก ศาลครอบครัวได้ไกล่เกลี่ยยาวนานหลายชั่วโมง จนครูเพลงคนดัง ตัดสินใจถอนฟ้องไปเมื่อปี 2562
แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ยื่นฟ้องหย่ารอบสองในปี 2563 พร้อมพูดประกาศออกสื่อ แบบว่าหัวเด็ดตีนขาด ก็ต้องแยกทางกับครูปุ้มให้ได้ เพราะหัวใจไม่เหลืออะไรให้แล้ว
มิหนำซ้ำ ครูเพลงลูกทุ่งที่มีเพลงดังหลายร้อยเพลงอย่างเช่นเพลง ล่องเรือหารัก ลูกสาวผู้การ และ วันนี้สวยกว่าเมื่อวาน ยังเคยแฉภรรยาตัวเองเสียๆหายๆ ว่าทำร้ายร่างกาย จนเลือดออกเป็นขัน มีความหึงหวงรุนแรง ไม่เข้าใจตนเองที่เป็นคนดัง ต้องมี FC มาล้อมหน้าล้อมหลัง ต้องกล้ำกลืนฝืนทนมานาน 30 ปี
ทั้งที่หากเทียบวัยกันแล้ว ระหว่างครูชลธีกับครูปุ้ม ก็เข้าข่าย “มีเมียเด็ก” เพราะอายุห่างกันถึง 30 ปีเศษ
แต่เสน่ห์ของเด็กไม่เข้าใครออกใคร เมื่อครูชลธีมาเจอเข้ากับนักร้องสาวที่อยากมีชื่อเสียงในวงการเพลงลูกทุ่งอย่างเกด ซึ่งอายุห่างกันกว่า 50 ปี หรือประมาณปู่กับหลาน
หัวเด็ดตีนขาดก็จะแยกทางกับภรรยา เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ได้
นอกจากฟ้องหย่าจนเรื่องยังศาลอยู่ในเวลานี้ ครูชลธียังฟ้องครูปุ้มเพื่อชิงทรัพย์สินด้วย ทั้งลิขสิทธิ์เพลง บ้าน และอื่นๆ ที่อ้างว่าได้มาก่อนแต่งงาน มิใช่สินสมรส
ไม่เท่านั้น ยังเปิดศึกค้าความกับลูกรัก นักร้องลูกทุ่งคนดังอย่าง เสรีย์ รุ่งสว่าง ที่ตัวเองปลุกปั้นมากับมือ และมีสัมพันธ์ทีดีต่อกันนาน 40 ปี
ด้วยการแจ้งความ กล่าวหา เสรีย์ รุ่งสว่าง ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง เรียกค่าเสียหายถึง 20 ล้านบาท ทำเอาเสรีถึงกับน้ำตาร่วงออกสื่อ ไม่คิดว่า “พ่อ” จะทำตนเองได้
โดยในมือของเสรีย์ รุ่งสว่าง คือปึกเอกสารสัญญาการซื้อเพลงที่ครูชลธี เคยแต่งให้ตัวเองจนโด่งดัง เช่น เพลงเทพธิดาผ้าซิ่น เพลงเรียกพี่ได้ไหม เอามาทำมาสเตอร์ใหม่ เพื่ออัพโหลดขึ้นยูทูบ
เสรีย์ รุ่งสว่าง ระบุว่า ครูชลธีนอกจากลงลายเซ็นแล้ว ยังเขียนด้วยลายมือในหนังสือสัญญาอีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่าจะหลงลืมไปได้
ไม่เท่านั้น ครูชลธียังแจ้งความเรียกเงิน 50 ล้านบาท จากค่ายเพลงชัวร์ ออดิโอ หรือชัวร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วยข้อหาลักษณะเดียวกัน เล่นเอานายห้างชัวร์ประกาศ จะฟ้องกลับ เพราะอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งมานาน เพิ่งจะมาเสียชื่อเสียงเพราะครูชลธี
ทุกกรณีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าการฟ้องหย่าภรรยา การควงสาวรุ่นหลานกับปู่ออกนอกหน้า การพูดต่อหน้ากล้องอย่างไม่แคร์สื่อ รวมไปถึงการฟ้องเรียกเงินจาก เสรีย์ รุ่งสว่าง และค่ายเพลงชัวร์
ล้วนแต่สร้างกระแสด้านลบให้กับครูชลธีซ้ำแล้วซ้ำเล่า โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ศิลปินแห่งชาติคนนี้อย่างสาดเสียเทเสีย แสดงอาการหมดความเคารพความศรัทธา
ทั้งที่ผลงานของท่านที่สร้างไว้ประดับวงการเพลงลูกทุ่ง คือการแต่งเพลงมากมายมหาศาลถึง 5,000 เพลง สร้างศิลปินนักร้องลูกทุ่งให้มีชื่อเสียงยาวเป็นหางว่าว ไม่ว่าจะ “สายัณห์ สัญญา” “ผ่องศรี วรนุช” “ไพรวัลย์ ลูกเพชร” “ศรคีรี ศรีประจวบ” “เสรีย์ รุ่งสว่าง” “จินตหรา พูนลาภ” “สุนารี ราชสีมา” “เสกศักดิ์ ภู่กันทอง” “สดใส รุ่งโพธิ์ทอง” หรือแม้แต่ “พุ่มพวง ดวจันทร์” เป็นต้น
แต่วันนี้กลับมีภาพของ ชายชราหลงเด็ก เข้ามากลบผลงานในอดีตที่สร้างไว้ทั้งชีวิตแทบหมดสิ้น
เมื่อปี 2563 ครม.ได้แก้กฎกระทรวงวัฒนธรรม ว่าด้วยคุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ ประเด็นสำคัญก็คือ เมื่อยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติได้ ก็เลิกยกย่อง หรือถอดจากความเป็นศิลปินแห่งชาติ ได้เช่นกัน
ซึ่งทันทีที่มีข่าวเรื่องนี้ออกมา กระแสชาวเน็ตก็วิจารณ์กันให้แซ่ดว่า คนที่เหมาะสมกับการประเดิมกฎใหม่นี้ ก็น่าจะเป็น “ชลธี ธารทอง” นี่แหละ จากผลงานโบดำช่วงปีหลังๆ ล้วนๆ
การแสดงออกถึงความโรแมนติกรุนแรง และวุ่นวายเรื่องเงินๆ ทองๆ เกินเหตุจนติดลบ ก็อาจทำให้ สักวัน ชลธี ธารทอง อาจจะประสบชะตากรรมเดียวกับสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินคนแรกที่โดนถอดถอนศิลปินแห่งชาติก็เป็นได้ มันก็ไม่แน่ดอกนาย