“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 ตอน ศึกอดีตคู่ชิง ผบ.ทบ. "ประยุทธ์-วิชญ์" เจอกันอีกรอบ
การตั้ง บิ๊กน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นกรรมการบริหารพรรค และนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ถือว่ามีนัยยะทางการเมือง เป็นไพ่ใบสำคัญที่บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หงายออกมา และเลือกเปิดตัวพลเอกวิชญ์ในช่วงที่มีรอยปริแยก ด้านความสัมพันธ์ในวงสายเลือด 3 ป.
และท่ามกลางกระแสข่าวว่า 2 ป. น้องรอง บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และน้องเล็ก บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดปฏิบัติการแทรกซึมพรรคพลังประชารัฐ เพื่อป้องกันปัญหาขาลอย หลังที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
พลเอก วิชญ์ ในแวดวงทหารรับรู้กันมานานว่า ในฐานะน้องรักของ บิ๊กป้อม ที่จัดอยู่ลำดับต้นๆ เป็น 1 ใน 2 อดีตนายทหารที่ บิ๊กป้อม เลิฟที่สุด โดยอีกคนคือ บิ๊กบี้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อดีต รมว.แรงงาน ในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ตอน บิ๊กป้อม เป็น รมว.กลาโหม ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิ๊กน้อย ถูกดันขึ้นถึง 5 เสือ ทบ. และยังพุ่งแรงไปถึงขยับเป็นแคนดิเดตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คู่ กับ บิ๊กตู่ ในปี 2553 แต่สุดท้ายเป็น บิ๊กตู่ ที่คว้าเก้าอี้ ผบ.ทบ.สำเร็จต่อจาก บิ๊กป๊อก พลเอกอนุพงษ์
ว่ากันตามตรง ศักดิ์และสิทธิ์ในความเป็นน้องรักของ บิ๊กป้อม ไม่ได้เป็นรอง บิ๊กป๊อก และ บิ๊กตู่ เพียงแค่ บิ๊กน้อย ไม่ใช่ทหารบูรพาพยัคฆ์เพียงเท่านั้น
การมาของ พลเอก วิชญ์ ถูกมองว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่า พรรคพลังประชารัฐยังเป็นพรรคของคนชื่อ พล.อ.ประวิตร เพียงแต่ผู้เดียว
ขณะที่การแต่งตั้ง บิ๊กน้อย ขึ้นมาหน้าฉาก ไม่ได้เป็นการแต่งตั้งลอยๆ แต่จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากหลังจากนี้ เรียกว่า เป็นมือไม้ทางการเมืองให้ บิ๊กป้อม แบบครอบจักรวาล แทนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก ที่ทำหน้าที่ดังกล่าวก่อนหน้านี้
หรือจะเรียกให้ถูกคือ เป็นเลขานุการส่วนตัวของ บิ๊กป้อม เพื่อเข้ามาจัดแจงเรื่องต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีหลายก๊กหลายก๊วน
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ 3 คนที่ผ่านมา แม้จะพยายามเปลี่ยนมาแล้วหลายรอบ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองภายในได้เลย ตั้งแต่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐคนแรก
ถัดมาเป็น เสี่ยแฮงค์ อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เจอปัญหาเรื่องยี่ห้อสามมิตร สุดท้ายต้องเปลี่ยนมาเป็น ร.อ.ธรรมนัส ที่เหมือนจะเอาอยู่ แต่ถึงเวลาจริงก็เจอสารพัดปัญหา
ครั้นจะเปลี่ยนจะ ร.อ.ธรรมนัส ไปให้คนอื่นก็จะเจอปัญหาเดิมอีกคือ สลัดความเป็นมุ้งไม่ออก เพราะในพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีใครเป็นผู้ใหญ่และเป็นคนกลางๆ จริง
ครั้นจะเอาประเภทนักการเมืองสายกลาง ก็เจอปัญหาไม่มีเพาเวอร์คุมอีก สุดท้ายก็ต้องตั้ง บิ๊กน้อย ที่ไม่มีภาพมุ้ง นอกจากภาพ บิ๊กป้อม มานั่งเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เพื่อลดภาพความขัดแย้งภายในพรรค
ส่วนที่ บิ๊กป้อม ไม่ตั้ง บิ๊กน้อย เป็นเลขาธิการพรรคเลย คงเป็นเพราะตำแหน่งเลขาธิการพรรคในยุคนี้ ควรจะเป็น ส.ส.ที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ทำงานใกล้ชิดกับพวก ส.ส.
อย่างไรก็ดี แม้ภาพ บิ๊กน้อย จะเป็นยี่ห้อ บิ๊กป้อม ชัดเจน แต่ก็ยากจะปฏิเสธว่า บิ๊กน้อย เองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ ร.อ.ธรรมนัส อยู่เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้มุ้งอื่นๆ ในพรรคยังหวาดระแวงอยู่
สำหรับ บิ๊กน้อย ถือเป็นผู้มีบุญคุณคนหนึ่งของ ร.อ.ธรรมนัส โดยเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ร.อ.ธรรมนัส ที่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ก็เป็นนักการเมืองคนหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบ ถูกอายัดเงินร่วมกับคนอื่นๆ
ร.อ.ธรรมนัส เอง มีเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 (ตท.25) เป็นนายทหารคนสนิทของ บิ๊กน้อย ซึ่งนายทหารคนสนิทรายนี้ที่ปัจจุบันเป็นระดับนายพลแล้ว พา ร.อ.ธรรมนัส เข้าไปพบ บิ๊กน้อย
และ บิ๊กน้อย นี่เอง เป็นคนพา ร.อ.ธรรมนัส ไปขอความช่วยเหลือจาก บิ๊กป้อม จนทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ติดหนี้บุญคุณ บิ๊กป้อม อยู่จนทุกวันนี้
บิ๊กน้อย กับ ร.อ.ธรรมนัส ต่อกันติดไม่ยาก เพราะ บิ๊กน้อย เองเป็น ก๊วนทหารม้า ก๊วนเดียวกับ เสธ.ไอซ์ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบกผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นอดีตนายทหารรุ่นที่ ร.อ.ธรรมนัส ใกล้ชิดที่สุด
อย่างไรก็ดี แม้ บิ๊กน้อย จะบุว่า ไม่ได้เข้ามาเพื่อกันท่า บิ๊กตู่ ยุ่มยามในพรรคพลังประชารัฐ แต่จะมาช่วยงาน 2 ป. คือ ป.ประยุทธ์ และ ป.ป้อม แต่คนก็ทำใจเชื่อยาก
เพราะ บิ๊กน้อย เองก็ไม่ได้มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับ บิ๊กตู่ อีกทั้งทั้งคู่ยังเป็นอดีตคู่ชิงตำแหน่ง ผบ.ทบ.มาแล้วเมื่อปี 2553 ภาษาชาวบ้านคือ คู่แข่งเก่า
มีการตั้งข้อสังเกตด้วยซ้ำไปว่า การที่ บิ๊กป้อม เอา บิ๊กน้อย มา ก็เพื่อจะสื่อสารไปยังตึกไทยคู่ฟ้าว่า น้องรักของเขาไม่ได้มีแค่คนเดียว
การที่ พลเอกวิชญ์ เข้ามา ยิ่งทำให้ 2 ป. เข้ามาแทรกแซงในพรรคพลังประชารัฐยากขึ้นกว่าเดิม ต่อให้ทุกวันนี้จะมีรัฐมนตรีกลุ่มสามมิตร สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง, สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เข้าไปเป็นสายตรงก็ตาม
ดูแล้วสงครามภายในพรรคพลังประชารัฐจากมุ้งการเมืองต่างๆ ดูเล็กไปเลย เมื่อศึกครั้งนี้ มันขยายไปเป็นศึกสายเลือด เสียแล้ว