รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 14 ก.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ลิซ่า แบล็กพิงค์ กว่าจะถึง LALISA
3 วัน 120 ล้านวิวในยูทูบ ทำลายสิถิติการดูเพลงในโซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์มระดับโลกอย่างขาดกระจุย
ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ของโลก รวมถึงโลกทวิตเตอร์ก็กล่าวถึงแฮชแท็ก #TodayIsLalisaDay ทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
รวมถึงการสร้างกระแสถกเถียงขัดแย้งกันถึงภาพต่างๆ ที่ปรากฏในมิวสิควิดีโอย่างร้อนฉ่าโลกโซเชียลด้วย
มิวสิควิดีโอบทเพลง ‘LALISA’ ของ ลิซ่า แบล๊คพิงค์ เพียงซิงเกิลแรกได้ถูกกล่าวขวัญเล่าขานกันสนั่นโลกดนตรีในวินาทีนี้ นาทีนี้ ชั่วโมงนี้ และชั่วโมงต่อๆ ไป ในการที่จะทำสถิติต่างๆ ในการเปิดตัวในฐานะนักร้องเดี่ยว
ตั้งแต่ 2016 หรือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า แบล๊คพิงค์ เกิร์ลกรุ๊ป ไอดอลเค-พ๊อพ ได้ก้าวสู่ความเป็นพ๊อพสตาร์ร่วมกับเพื่อนร่วมวงสาววัยรุ่นอีก 3 คน
โด่งดังไปทั่วโลกและบุกตลาดเพลงอเมริกา ในฐานะวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีได้อย่างสง่างาม โดยเฉพาะการขึ้นเล่นสดบนเวทีโคเชลลา เทศดนตรีลำดับต้นๆ ของโลกที่ทีคนดูหลายแสนคน ตนถูกกล่าวขวัญเป็นพลุแตก
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอสร้างความตะลึงอีกหน ด้วยการเปืดตัวมิวสิควิดีโอใหม่ผ่านยูทูบ ในฐานะนักร้องเดี่ยว โดยเฉพาะเมืองไทยกลายเป็นเทรด์ระดับเมกะฮิตที่ไม่มีใครไม่พูดถึง
แม้แต่นายกฯ และกระทรวงวัฒนธรรมยังออกมาเชิดชูในฐานะ ‘ซอฟต์ พาวเวอร์’ ทางวัฒนธรรม
เหล่าบลิ๊งค์ (แฟนคลับตัวแท้แบล๊คพิงค์) ทั่วโลก ก็คงได้เห็นชุดจาก Asava แบรนด์ไทย ฝีมือการออกแบบของ หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ส่วนเครื่องหัวสุดอลังการ หรือร้ดเกล้ายอดนั้น ก็เป็นฝีมือของดีไซเนอร์ไทยอย่าง โดย ผักกาด-ประภากาศ อังศุสิงห์ จากแบรนด์ HOOK'S ที่ลิซ่าและทีมจากวายจีเลือกให้มาสวมใส่ในเอ็มวีของเธอ
แต่ใครจะรู้กว่าเธอขึ้นสู่ระดับโลกเช่นนี้ได้ ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา
ลิซ่า ให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า อาชีพในฝันถ้าไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง เธออยากเป็นครูสอนเต้น
10 ปี ในการอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ หากเทียบกับอายุ เกือบครึ่งชีวิตเธออยู่ที่นี่ เธอยังจำภาพวันแรกที่เข้าไปในห้องซ้อมได้อย่างแม่นยำ และต้องอยู่ต่ออีก 3 เดือนคนเดียว โดยพ่อแม่บินกลับไทยทันทีในวันนั้น และเธอก็อยู่ยาวมาตั้งแต่วันนั้น
การปรับตัวได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ปีแรก เป็นความท้าทายและอดทนสำหรับเด็กสาววัยรุ่นคนบุรีรัมย์ อายุเพียง 14 ปี ต้องมาอยู่คนเดียว ต้องตัดสินใจคนเดียว ใช้เงินคนเดียว เปลี่ยนแปลงจากเด็กที่ไม่เคยทำอะไรเลย ติดแม่แจ ต้องมาวิดีโอ คอลล์ คุยกับแม่ในทุกวัน หลังซ้อมเพื่อัพเดตให้แม่รับรู้
ว่าไปแล้ว ลิซ่าคล้ายกับเกิดมาเพื่อเดินทางมาสู่จุดนี้หรือ บอร์น ทู บี ด้วยความลุ่มหลงคลั่งไคล้ในการเต้นตั้งแต่เป็นนักเรียนประถมศึกษา ด้วยความที่บ้านป้าของเธอที่อยู่ใกล้กันทำธุรกิจบันเทิงเกี่ยวกับวงดนตรี ทำให้เธอซึมซาบและอยู่กับสิ่งแวดล้อมของดนตรีและการเต้น สามารถเต้นท่าฟรีซ (Freeze) ได้ตั้งแต่อายุ 11 ปี ไปจนถึงการเต้นหางเครื่อง รำไทย พร้อมกับเรียนร้องเพลง
จุดเปลี่ยนสำคัญคือลิซ่า เมื่อปี 2010 ค่ายวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์มาเปิดออดิชันในประเทศไทยเป็นครั้งแรก จากมีผู้สมัครราว 4,000 คน ลิซ่าเป็นคนเดียวที่สามารถผ่านการคัดเลือกจากวายจีออดิชันไทยแลนด์ และได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดของวายจีอย่างเต็มตัวเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2011
แต่ใช่ว่าอยู่ดีๆ เธอจะก้าวสู่ความเป็นไอดอลของเกิร์ลกรุ๊ปเคพ๊อพทันที การฝึกหัดฝึกซ้อมนานกว่า 5 ปี ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าเกาหลีใต้นั้นมีความโหดหินเคี่ยวกรำอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในการคัดเลือกสมาชิกของวงไอดอล ที่ต้องฟันฝ่าคู่แข่งจำนวนหลายร้อยคนจากทั่วโลก
ลิซ่าได้เป็นหนึ่งในสมาชิกวงแบล็กพิงก์และยังเป็นศิลปินต่างชาติคนแรกในค่ายวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมายในการขึ้นสู่ระดับโลก
ลิซ่า ถูกจัดอันดับจาก TC Candler ให้ติดอันดับ 100 Most Beautiful Faces โดยติดอันดับต้นๆ 3 ปีซ้อน เป็นคนไทยที่มียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมเยอะมากที่สุดของเมืองไทย จำนวนผู้ติดตาม 28.2 ล้านคน ปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นอย่างพุ่งพรวด โดยใช้ชื่อ lalalalisa_m อีกทั้งยังเป็นหญิงไทยคนแรกได้ขึ้นบิลบอร์ดในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
แน่นอน นอกจากคุณแม่ จิตทิพย์ บรอยช์ไวเลอร์ คนทั้งโลกที่ได้ดูรายการ BLACKPINK HOUSE จะเห็นผู้ชายฝรั่งวัยกลางคน ซึ่งเป็นคุณพ่อบุญธรรมของลิซ่า เขาเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อ มาร์โค บรอยช์ไวเลอร์ พ่อผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ลิซ่า อย่างแท้จริง คอยให้การสนับสนุน ลิซ่า ที่ต้องไปใช้ชีวิตคนเดียวในฐานะเด็กฝึกที่เกาหลีใต้ ตั้งแต่อยู่ในวัยมัธยมต้น สนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย ตอนเป็นเด็กฝึกตลอด 6 ปี ซึ่งการไปเป็นเด็กฝึกในต่างแดนพร้อมกับค่าใช้จ่ายมหาศาล
ด้วยความที่ลิซ่าเป็นคนง่ายๆ และนำความบันเทิงแบบไทยๆ มาเสนออยู่เสมอ ยิ่งการเต้นเพลง ‘ปูหนีบอีปิ’ มาเต้นโชว์ในรายการวาไรตี้โชว์ของเกาหลีใต้ จนกลายเป็นคลิปไวรัลดังไปทั่วโลก
หรือบทสัมภาษณ์ล่าสุด ที่บอกว่า อยากกลับไปกินลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ และต้องจิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ดใส่น้ำพริกเผาด้วย สะท้อนถึงความบ้านๆ ของเธอที่ยังเปี่ยมทุกอณูโดนใจคนไทย
.
10 ปีที่เปลี่ยนชีวิตของเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่เติบโตจากไอดอล เกิร์ลกรุ๊ปเคพ๊อพ กลายเป็นไอคอนวงการบันเทิงระดับโลกในฐานะนักร้องเดี่ยว ไม่ใช่เรื่องมาง่ายๆ
นอกจากพรสวรรค์และความสามารถที่มีอยู่แล้ว ยังต้องฝ่าฟันอดทนเอดกลั้นเกินมนุษย์ธรรมดา กับ 5 ปีเต็มจากการเป็นเด็กฝึกหัดที่ต้องแข่งขันกับเด็กสาวที่มีความฝันเดียวกันอีกเป็นหลายล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิค เพราะใครๆ ก็รู้ว่าวงการเพลงเคพ๊อพ ต้องการความสมบูรณ์แบบมากที่สุดในโลก
ตอนนี้หากจะกล่าวถึง ป๊อกแป๊ก หรือ ปราณปรียา มโนบาล (ชื่อเดิมของลิซ่า) สาวน้อยหน้าหวานตากลมโต คงไม่มีใครรู้จักอีกแล้ว