MGR Online - “ราชทัณฑ์” แจงอดีตผู้ต้องขังร้องทุกข์ ปปป. สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่เรือนจำชลบุรี 2 ราย มีมูลเรียกรับเงินแลกเลื่อนชั้น-อยู่สบาย เอาผิดวินัยร้ายแรง
วันนี้ (14 ก.ย.) นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายจำรัส (สงวนนามสกุล) อดีตผู้ต้องขังคดีฆ่าคนตาย ซึ่งเคยถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำกลางชลบุรี ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงเดือน เม.ย. 2564 ที่เพิ่งพ้นโทษมา พร้อมหลักฐานการโอนเงิน ข้อความแชตพูดคุยต่อรอง เรียกรับผลประโยชน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นั้น
นายธวัชชัย กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กรมราชทัณฑ์ มิได้นิ่งนอนใจกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบของเจ้าหน้าที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรและได้รับการรายงานจาก นายชาญ วชิรเดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี ว่า กรณีที่เป็นข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงปี พ.ศ. 2561 ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางชลบุรี จำนวน 2 ราย ร่วมกันเรียกรับเงินจาก น.ช.จำรัส เพื่อแลกกับการเลื่อนชั้น และความเป็นอยู่ จึงได้ให้เรือนจำกลางชลบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเรือนจำกลางชลบุรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลการสอบสวนพร้อมเอกสารให้กรมราชทัณฑ์พิจารณา
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว ตามคำสั่งกรมราชทัณฑ์ ที่ 558/2563 ลงวันที่ 16 เมษายน 2563 พบว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางชลบุรี 1 ราย มีกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ภายหลังได้สอบข้อเท็จจริงจากผู้เกี่ยวข้องเสร็จสิ้น และกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงกับผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการทางวินัย ตามข้อ 52 และ 53 ของกฎ ก.พ. และแจ้งให้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามบันทึกแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาหลังจากที่ได้รับแจ้งหนังสือภายในระยะเวลาที่กำหนด
“ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวมีหนังสือขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ถึงวันที่ 20 ก.ย. 2564 และคณะกรรมการสอบสวนอยู่ระหว่างสรุปสำนวนและรายงานการสอบสวนเสนออธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำเข้าที่ประชุม อ.ก.พ. กรมราชทัณฑ์ ในวันที่ 28 ก.ย. เบื้องต้นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว”