แนวร่วม “คาร์ม็อบ” แว้นไปศาลอาญา พร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้ศาลปล่อยตัว 7 แกนนำคณะราษฎร ก่อนมุ่งหน้าไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
วันนี้ (10 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.55 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ขบวนคาร์ม็อบของกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, กลุ่มทะลุฟ้า, แนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม และกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เดินทางมาจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงบริเวณด้านหน้าศาลอาญา เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ศาลอาญามีคำสั่งปล่อยชั่วคราวนักกิจกรรมที่ถูกคุมขัง อาทิ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ พร้อมพวกรวม 7 คน โดยขบวนคาร์ม็อบมีการปราศรัยเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำตลอดเส้นทาง มีการบีบแตร พร้อมชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว บรรยากาศเป็นไปโดยสงบ บางส่วนตะโกนด่าทอ แต่ไม่มีการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
จากนั้น นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าหมายเลข 8 ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือ ว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อให้ตระหนักถึงการนำผู้บริสุทธิ์มากักขัง การจำกัดอิสรภาพ สิทธิ เสรีภาพทั้งที่ยังไม่มีการพิพากษาว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้กระทำความผิด ดังนั้นแล้ว จึงหวังว่า ศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวชั่วคราวแกนนำทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ เพื่อให้ได้ออกมาสู้คดี เพราะตอนนี้ผู้ที่ถูกฝากขังทั้งหมดยังเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่มีใครจะทำความผิด
นายธนพัฒน์ กล่าวว่า ระบบตุลาการจะต้องให้ความยุติธรรมกับแกนนำจึงออกมาเรียกร้อง ส่วนที่ผ่านมา ที่ประชาชนมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องภายใต้การดูแลตัวเอง สวมหน้ากาก ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มผู้ทำกิจกรรม จะเป็นผู้เผยแพร่เชื้อ โควิด-19 และประชาชนออกมาชุมนุมเพื่อใช้สิทธิของตัวเอง และเชื่อว่า ทุกครั้งที่ประชาชนออกมาสู้จะไม่แพ้แน่นอน
ส่วน นายชนินทร์ วงษ์ศรี หรือ บอล จากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวถึงกรณีที่มีข้อมูลว่า มีการทำร้ายร่างกายแกนนำในเรือนจำว่า ถึงแม้ว่าจะมีความผิดหรือไม่มีความผิดก็ไม่มีใครสมควรถูกทำร้าย และขอให้สังคมพิจารณาถึงเรื่องนี้
จากนั้น 14.05 น. ตัวแทนกลุ่มต่างๆ จำนวน 4 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือที่จุดวันสตอปเซอร์วิตภายในพื้นที่ศาลอาญา โดยทางฝั่งผู้ยื่นหนังสือต้องการให้มีผู้รับมอบหนังสือ แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้นำเอกสารดังกล่าวหย่อนไว้ในตู้รับหนังสือ โดยยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวจะนำส่งถึงผู้บริหารศาลอาญาอย่างแน่นอน