MGR Online - กองปราบแกะรอยข้ามปี บุกรวบแก๊งไนจีเรียร่วมกับเมียชาวไทย ซุกยาไอซ์ 9 กก.ในกระเป๋าสะพายสตรี เตรียมส่งให้ลูกค้าที่ฮ่องกง
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 ร่วมแถลงผลจับกุม นายเฮนรี เคเลชิ อาเลโต สัญชาติไนจีเรีย และ น.ส.วรรณวิสา พิลาตัน อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญา คดี “ร่วมกันมียาไอซ์และโคเคนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” นอกจากนี้ ได้จับกุม นายอิวูอามาดิ เอมเมกะ วอคซัน สัญชาติไนจีเรีย ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ นายอูโซมา หรือ จัสติน คิงลีย์ เอมเมกะ สัญชาติไนจีเรีย บุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าประเทศ เพราะมีประวัติเคยถูกจับกุมดำเนินคดีจำหน่ายยาเสพติดมาก่อน
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 63 เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านราชเทวี เพื่อให้ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยว่าภายในเป็นของผิดกฎหมาย ที่จะส่งออกไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และจากการตรวจสอบก็พบยาไอซ์ น้ำหนักรวม 9 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายสตรี จำนวน 18 ใบ จากทั้งสิ้น 30 ใบ ห่อหุ้มด้วยแผ่นกันกลิ่น พันด้วยเทปสีน้ำตาลอย่างดี
จากการสืบสวนขยายผลพบว่า ผู้ที่นำของมาส่งนั้นเป็นหญิงชาวไทย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วรรณวิสา ผู้ต้องหารายนี้ ส่วนนายเฮนรี ซึ่งเป็นสามีนั้น เป็นผู้ขับขี่รถมาส่งด้วย โดยได้ตรวจสอบรอยลายนิ้วมือแฝงบริเวณห่อบรรจุยาเสพติด ก็พบว่าตรงกันกับลายพิมพ์นิ้วมือของนายเฮนรี่ ที่ยังมีประวัติพัวพันคดียาเสพติดอีกด้วย
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อว่า จากนั้นพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองไว้ กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามร่วมกับ ตม.จว.สมุทรปราการ นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ที่ จ.สมุทรปราการ 3 จุด และ กทม.อีก 1 จุด จนกระทั่งสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดได้พร้อมของกลาง โคเคน น้ำหนักประมาณ 290 กรัม มูลค่าเกือบ 9 แสนบาท จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวด้วยว่า ในปัจจุบันพบว่าการลักลอบส่งยาเสพติด มีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยจะมีการซุกซ่อนยาเสพติดในพัสดุรูปแบบต่างๆ และใช้บริษัทขนส่งเอกชนเป็นสื่อกลางส่งไปต่างประเทศ.จึงประสานงานกับบริษัทขนส่งเอกชน เฝ้าสืบสวนติดตามเรื่อยมา แต่ก็ยังการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำๆ สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศเป็นอย่างมาก เพราะเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้มีการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้ลักลอบส่งยาเสพติดในรูปแบบดังกล่าวอย่างเข้มงวดและจริงจังต่อไป
