หนุ่มพนักงานโฮมโปร คาใจ ภรรยาฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้วหัวใจเต้นแรง ปวดหัว มีไข้สูง ตาพร่ามัว ต้องเข้ารักษาที่ รพ.พระนั่งเกล้า ตรวจพบลิ่มเลือดดำในสมอง ก่อนเสียชีวิต แพทย์ระบุสาเหตุจาก “ภาวะสมองตาย” ยืนยันยังไม่เผาศพ ประสาน รพ.รามาฯ ชันสูตรอีกครั้ง
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ศาลา 2 วัดเต็มรักสามัคคี ศาลา 2 หมู่ 8 ถนนบางไผ-หนองเพรางาย ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายธนบดี สิงห์ทองรัตน์ อายุ 32 ปี พนักงานโฮมโปร สามี น.ส.กษมล สิงห์ทองรัตน์ อายุ 28 ปี พนักงานร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เปิดเผยผู้สื่อข่าวกรณีภรรยาฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้วเสียชีวิต หลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเสียชีวิตจาก “ภาวะสมองตาย” แต่ตนเองยังคาใจไม่ขอเผาศพภรรยา เตรียมประสานโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อผ่าชันสูตรอีกครั้ง และขอความช่วยเหลือจากนายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ให้ช่วย เกรงว่าจะไม่ได้รับความความเป็นธรรม
นายธนบดี กล่าวว่า ภรรยาของตนฉีดวัคซีนวันที่ 16 ก.ค. 64 เวลาบ่าย 2 บริษัท เขามีโควตาให้ฉีดทุกคน แล้วเขามีอาการข้างเคียงหลังฉีด คือ ใจเต้นแรง ให้นั่งพักดูอาการ 30 นาที และปวดหัวไหล่ซ้ายข้างที่ฉีด พอถึงบ้านบ่นปวดหัวและมีไข้สูง ประมาณ 3 วัน พอวันที่ 4 อาการไข้หาย หมอบอกให้กินยาลดไข้และพักผ่อนเยอะๆ แต่พอไข้ดีขึ้น เขาปวดหัวแรงขึ้น บ่นปวดวันละ 2-3 รอบ พอวันที่ 22 ก.ค. ก็มีอาการปวดรุนแรงและตาข้างซ้ายพร่ามัว มองไม่เห็น แขนไม่มีแรง ลิ้นแข็ง อ่านหนังสือหรือพูดไม่รู้เรื่อง ช่วงเย็นวันนั้นได้ให้มูลนิธิพาไปส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า หมอก็ให้นั่งพักและซักประวัติประมาณ 2 ชม. พอช่วง 4 ทุ่ม ก็พาไปสแกนสมอง เจอลิ่มเลือดเส้นเลือดดำในสมอง และนอนดูอาการ 2 วัน ให้น้ำเกลือและยาแก้ปวด พอวันที่ 24 ตรวจสมองละเอียดอีกรอบ กลับมาก็มานอนต่อคืนที่ 3 ดูอาการ ตอนเช้าวันที่ 25 มาดูฟิล์มที่สแกนสมองและจะให้ยาละลายลิ่มเลือด
ประมาณวันที่ 26 ช่วงตี 4 หมอโทร.มาแจ้งอาการโคมา หายใจเองไม่ได้และร่างกายไม่ตอบสนอง หัวใจเต้นและความดันต่ำบ้างสูงบ้าง ให้ตนไปเซ็นผ่าตัด พอตนเซ็นก็รอผลตรวจเลือด แต่ค่าเลือดของภรรยาตนไม่สามารถผ่าตัดได้ วันที่ 27 หมอบอกให้ทำใจ เพราะรักษาไม่ได้ ให้ได้เฉพาะยาละลายลิ่มเลือด หัวใจ กันชัก ภรรยาตนเสียชีวิตวันที่ 1 ตอน 2 ทุ่มครึ่ง หมอโทร.มาแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว ตนคิดว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เพราะภรรยาตนไม่มีโรคประจำตัวและร่างกายแข็งแรง
ตอนนี้สวดมา 2 คืนแล้ว แต่คงจะต้องหยุดสวดก่อน กำลังประสานโรงพยาบาลรามาฯ เพื่อไปผ่าชันสูตรอีกรอบ อยากให้ทนายโป้งช่วยเรื่องเอกสาร เงินเยียวยา ค่าตอบแทน เพราะภรรยาของตนมาฉีดวัคซีนแล้วโชคร้าย ตนมีครอบครัว มีลูกเล็กวัย 5 ขวบตอนนี้ลำบากมาก ตอนภรรยายังอยู่ก็ช่วยหารายได้ ถ้าไม่มีเขาก็เหลือตนคนเดียว ส่วนลูกตอนนี้ให้แม่ตนเลี้ยง ตนเชื่อว่า ต้องเกี่ยวกับวัคซีนที่ฉีดแน่นอน อยากฝากเตือนคนที่ฉีดวัคซีน ถ้าฉีดเรียบร้อยแล้วให้เฝ้าดูอาการ บางคนมีไข้สูง ภรรยาตนอาการหนักมาก ตนยังยืนยันที่จะเอาศพไปผ่าชันสูตรโรงพยาบาลรามาฯ แล้วเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ตนพร้อมยอมรับ
ทางด้าน นายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) กล่าวว่า ทางสามีได้ติดต่อตนมา เพราะมีความสงสัยการเสียชีวิตภรรยาของเขาที่ได้ไปรับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อป้องกันโควิด-19 จากการสอบถามเบื้องต้นมีไทม์ไลน์ปรากฏชัดเจน มีเพื่อนร่วมงานรู้เห็นว่าหลังจากผู้เสียชีวิตได้รับวัคซีนก็มีอาการใน 30 นาทีแรก แต่ยังไม่รุนแรง มีอาการปวดหัว มีไข้ หลังจากนั้น สามีก็มารับและใช้ชีวิตปกติแต่มีอาการทุกวัน หนักเข้าประมาณ 2-3 วันก็ต้องไปโรงพยาบาล อยู่ได้ 4 วันก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ทางสามีของผู้เสียชีวิตก็ติดใจว่าภรรยาของตนเสียชีวิตน่าจะมาจากการได้รับวัคซีน เพราะปกติภรรยาเป็นคนร่างกายแข็งแรงทำงานได้ปกติไม่มีปัญหาด้านสุขภาพใดๆ
อีกทั้งอายุยังน้อย ตนเลยแนะนำว่า มันมีกฎหมายอยู่เกี่ยวกับประกาศจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือจากกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีน พรุ่งนี้จะพาสามีของผู้เสียชีวิตไปยื่นเรื่องที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ทางครอบครัวสมัครใจที่จะเก็บศพไว้จนกว่าจะมีการพิสูจน์สาเหตุของการเสียชีวิตตามที่ติดใจหรือเปล่า เนื่องจากใบมรณบัตรระบุว่าเกี่ยวกับสมอง แต่ภรรยาของเขาไม่ได้เป็นโรคเกี่ยวกับสมองจะมาระบุการตายเกี่ยวกับสมองได้ยังไง อยากฝากถึงผู้ที่ได้รับปัญหาหลังการฉีดวัคซีนไม่ว่าจะเสียชีวิตหรือเกิดทุพพลภาพ และเจ็บป่วย สามารถใช้สิทธิเบื้องต้นตามประกาศของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เลย
