MGR Online - อธิบดีกรมพินิจฯ จัดโครงการปลูกพืชสมุนไพรในสถานที่ควบคุม ฝึกเด็กและเยาวชนต่อยอดอาชีพ ประสานกรมแพทย์แผนไทยอบรมปลูกนำไปใช้ได้จริง
วันนี้ (2 ส.ค.) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้มีความสนใจใช้ยาสมุนไพรมากขึ้นและมีแนวโน้มจะหายาก ซึ่งในขณะนี้ฟ้าทะลายโจรขาดตลาดอย่างมาก เพราะประชาชนเริ่มให้ความสนใจสมุนไพรไทยมากขึ้น เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาแหล่งปลูกพืชสมุนไพรภายในสถานที่ควบคุม เพื่อใช้ในการป้องกันและดูแลสุขภาพของประชาชนและเพื่ออนุรักษ์พืชสมุนไพรไว้ใช้ประโยชน์ประกอบกับสามารถนําพืชสมุนไพรมาแปรรูป เป็นอาหารเพื่อสุขภาพและยารักษาโรค
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เผยว่า จึงสั่งการให้มีการจัดทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาการปลูกพืชสมุนไพร สําหรับเด็กและเยาวชนภายในสถานที่ควบคุม เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกและสถานพินิจที่มีพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูกและเพาะผลิตเมล็ดพันธุ์ หรือต้นกล้าแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชน และส่งเสริมให้ศูนย์ฝึกและสถานพินิจเรียนรู้การใช้สมุนไพรเพื่อการป้องกันและรักษาโรค เป็นการฝึกอาชีพให้กับเด็กและเยาวชนให้สามารถนำไปประกอบอาชีพได้เมื่อพ้นจากการดูแลของกรมพินิจฯ โดยใช้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน 20 แห่ง สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่มีแรกรับ 36 แห่ง รวมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 50 ไร่
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เผยอีกว่า กรมพินิจฯ ได้ติดต่อประสานขอความเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าสมุนไพร ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขมิ้นชัน ขิง จากกรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ศูนย์ฝึกฯ และสถานพินิจฯ ประสานสํานักวิจัยและ พัฒนาการเกษตรในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์ฝึกฯ และสถานพินิจฯ สามารถประสานเกษตรจังหวัดหรือเกษตรอําเภอ ในพื้นที่เพื่อศึกษาเรียนรู้การเพาะปลูกพืชสมุนไพรได้ และจะจัดสรรเมล็ดพันธุ์พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้กับศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เพื่อเพาะปลูกขยายพันธุ์พืชในพื้นที่หน่วยงาน
“นอกจากนี้ ในวันที่ 3 ส.ค.กรมพินิจฯจะจัดอบรมออนไลน์ ให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมพินิจฯทั่วประเทศ เรื่องวิธีการเลือกซื้อและทานยาฟ้าทะลายโจร แบบถูกต้อง ทั้งแบบเพื่อรักษาและทานเพื่อป้องกัน โดยมีวิทยากรจากกรมแพทย์แผนไทย และสัปดาห์ถัดไป จะจัดอบรม online การปลูกฟ้าทะลายโจรให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมพินิจฯ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปใช้ได้เป็นสร้างการรับรู้ ให้ความรู้และส่งเสริมให้ดำเนินการได้จริง” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าว