MGR Online - “ดีเอสไอ” ตามรวบผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รูดเงินผ่านเครื่องรูดบัตร ทำให้ธนาคารเกิดความเสียหาย เกือบ 20 ล้านบาท
วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ทำการจับกุม นายสุเมธ แซ่อุ้ย ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีพิเศษที่ 10/2550 และคดีพิเศษที่ 52/2550 ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 894/2551 ลงวันที่ 21 พ.ค.2551 และหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส.1767/2551 ลงวันที่ 25 ก.ค.2551 ในความผิดฐานร่วมกับพวกใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (ซึ่งเป็นบัตรที่ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด)
สืบเนื่องจากเมื่อระหว่างวันที่ 20 ก.ย. - 3 ต.ค.49 นายสุเมธ ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (บัตรเครดิต) ผ่านเครื่องรูดบัตรของร้านบิวตี้เฮ้าส์ หรือร้านพลอย โดยออกอุบายเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องรับรูดบัตรเครดิตจาก "ร้านพลอย" ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ร้านบิวตี้เฮ้าส์” จากนั้นนำบัตรเครดิตปลอม นำมารูดผ่านเครื่องรับรูดบัตรเครดิตดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ธนาคารไทยพาณิชย์โอนเงินให้ตามธุรกรรมจากบัตรเครดิตที่เกิดขึ้นดังกล่าว จากนั้น มีการโอนเงินจากบัญชีของร้านพลอยหรือบิวตี้เฮ้าส์ เข้าบัญชีที่กลุ่มผู้ต้องหาได้วางแผนไว้ การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามมาตรา 269/4 ประกอบมาตรา 269/7 และมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
จากนั้น ดีเอสไอ ได้รับกรณีดังกล่าวไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2550 และคดีพิเศษที่ 52/2550 และได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลจังหวัดมีนบุรี และศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับนายสุเมธ ตามฐานความผิดดังกล่าว ต่อมา เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ได้สืบสวนจนทราบว่า นายสุเมธ ได้พำนักอยู่ที่ บ้านเหล่าเลิง หมู่ที่ 2 ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ จึงได้เข้าทำการจับกุมเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอ มีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มีมาตรการการปฏิบัติงานภายในที่พัก 100 เปอร์เซ็นต์ โดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) หากประชาชนมีความจำเป็นต้องติดต่อราชการ สามารถใช้การติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th แบนเนอร์ “ร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส” เพื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป