MGR Online - น.2 เผย ผบช.น.ชื่นชม ผบ.หมู่จราจร สน.ลุมพินี ถูกโชเฟอร์รถตู้ถีบ เตะ ชก หลังโดนใบสั่งและล็อกล้อ สาเหตุจอดในเขตห้ามจอด ชี้ มีความอดทน อดกลั้น ควบคุมสติ ไม่ตอบโต้ แม้ได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีชายทำร้ายตำรวจจราจร สน.ลุมพินี เนื่องจากไม่พอใจที่โดนล็อกล้อรถ ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค. เวลา 07.00 น. ขณะที่ ด.ต.สราวุธ รวบรวมวงศ์ ผบ.หมู่ (จร.) สน.ลุมพินี ขับรถจักรยานยนต์ตรวจสอบรถจอดในเขตห้ามจอด บริเวณหน้าธนาคารกรุงศรี สำนักงานใหญ่ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
ได้พบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮฐ 7684 กรุงเทพฯ จอดอยู่ในบริเวณเขตห้ามจอด (ฟุตปาทแถบสีแดงสลับขาว) เข้าไปตรวจสอบแล้วไม่พบผู้ขับรถตู้คันดังกล่าว จึงได้ออกใบสั่งสอดไว้ที่กระจกหน้ารถ และบังคับล้อไว้ จากนั้นขับรถออกไป ต่อมาเวลาประมาณ 07.30 น. ด.ต.สราวุธ ได้ขับรถกลับมาที่บริเวณดังกล่าวอีกครั้ง พบชายคนหนึ่งยืนถือใบสั่งและเรียก ด.ต.สราวุธ ให้หยุดรถ แล้วเข้ามาสอบถามด้วยอาการไม่พอใจ พร้อมพูดจาด่าทอ ด.ต.สราวุธ ได้แจ้งแก่ชายดังกล่าวว่า จะต้องไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อเปรียบเทียบปรับ
ขณะกำลังจะขับรถออกไป ปรากฏว่าชายดังกล่าวได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ที่ ด.ต.สราวุธ ขับอยู่ จนล้มลงได้รับความเสียหาย ก่อนเข้ามาใช้ขาเตะบริเวณลำตัว ด.ต.สราวุธ จำนวน 1 ครั้ง เมื่อ ด.ต.สราวุธ ลุกขึ้นชายดังกล่าวได้ชกเข้าบริเวณใบหน้า และใช้ขาเตะบริเวณหน้าแข้งของ ด.ต.สราวุธ อีก เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ มีประชาชนเห็นเหตุการณ์ และได้เข้ามาช่วยเหลือ ด.ต.สราวุธ ทำการจับกุมชายดังกล่าวไว้ โดย ด.ต.สราวุธ ได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ทำให้เสียทรัพย์, จอดรถในเขตห้ามจอด” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ บช.น.อยากให้เข้าใจถึงการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎจราจร ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยในส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ก็เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย และตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ได้มอบหมายในการกวดขับจับกุมผู้ขับขี่ จอดรถ ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร หรือกีดขวางการจราจร เพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนโดยส่วนรวม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ขอชื่นชมตำรวจนายดังกล่าว ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยแสดงถึงความอดทน อดกลั้น มีวุฒิภาวะในการควบคุมสติปัญญา อารมณ์ แม้ว่าชายดังกล่าวจะพูดจาต่อว่าเอะอะโวยวาย และใช้กำลังทำร้ายเจ้าพนักงานจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ทำการตอบโต้ หรือใช้ความรุนแรงกระทำต่อชายดังกล่าวแต่อย่างใด
