MGR Online - นครบาลเตรียมความพร้อมรับมือ ม็อบ "คนไทยฯ-ไทยไม่ทนฯ-คาร์ม็อบ" รวมตัว 10 ก.ค. ชี้ ผิด 5 ข้อหา แนะเส้นทางเลี่ยงผลกระทบ 14 สาย ดำเนินคดีชุมนุม 2-4 ก.ค. พิสูจน์ทราบแล้ว 59 ราย น.1 ขานรับล็อกดาวน์ตั้งจุดตรวจ
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.แถลงถึงการรักษาความสงบเรียบร้อย กรณีการทำกิจกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ว่า พรุ่งนี้มีการรวมตัวชุมนุมของ 3 กลุ่มสำคัญ ประกอบด้วย 1. กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่แยกอุรุพงษ์ และเคลื่อนขบวนไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
2. กลุ่มคนไทยไม่ทนฯ นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ที่แยกผ่านฟ้า และคาดว่าเคลื่อนขบวนไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาล หรือไปรวมกับกลุ่มที่ 3 ที่แยกราชประสงค์ 3. กลุ่มคาร์ม็อบ นำโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ตั้งแต่เวลา 13.00 น. โดยเคลื่อนขบวนในรูปแบบคาร์ม็อบไปยัง 4 พรรคการเมืองหลัก คือ พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคภูมิใจไทย, พรรครวมพลังประชาชาติไทย ก่อนมารวมตัวที่แยกราชประสงค์
ในขณะนี้กรุงเทพฯได้ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด การชุมนุม การมั่วสุม หรือการจัดกิจกรรมด้วยประการหนึ่งประการใด ที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (มาตราการควบคุมโรค), พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.ความสะอาด, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง ขอเตือนว่าการชุมนุมดังกล่าว อาจเป็นส่วนทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในเขตกรุงเทพฯ หรือในภาพรวมของประเทศเลวร้ายยิ่งขึ้น โดย บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังไว้ 5 กองร้อย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินคดีการชุมนุมเมื่อวันที่ 2-4 ก.ค.ที่ผ่านมา บช.น.ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏผู้กระทำความผิดแล้วกว่า 70 ราย สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้แล้ว 59 ราย และพิสูจน์ทราบรถที่ใช้การชุมนุมแล้ว 47 คัน ขณะนี้พนักงานสืบสวนสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทุกราย
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.กล่าวว่า ในส่วนการจราจร บช.น.ได้เตรียมการบริหารจัดการจราจร เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด การทำกิจกรรมของ "คาร์ม็อบ" ถนนที่ได้รับผลกระทบมี 9 เส้นทาง ประกอบด้วย ถนนราชดำเนินกลาง, ถนนหลานหลวง, ถนนพระราม 6, ถนนกำแพงเพชร, ถนนพหลโยธิน, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนอโศกมนตรี, ถนนสุขุมวิท, ถนนเพลินจิต ก่อนจะรวมตัวที่แยกราชประสงค์และแยกย้ายไป โดยขอให้หลักเลี่ยงตั้งแต่เวลา 11.00 น.
ส่วนกลุ่มประชาชนคนไทย และกลุ่มคนไทยไม่ทนฯ ที่แยกอุรุพงษ์ และแยกผ่านฟ้า ถนนที่ได้รับผลกระทบมี 5 เส้นทาง ประกอบด้วย ถนนหลานหลวง, ถนนนครสวรรค์, ถนนพิษณุโลก, ถนนนครปฐม, ถนนพระราม 5 รวมถึงบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยขอให้หลีกเลี่ยงตั้งแต่เวลา 13.00 น. ทั้งนี้ บช.น.จะไม่ทำการปิดการจราจร ยกเว้นกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นมีการกีดขวางการจราจร จึงต้องปิดการจราจรโดยปริยาย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท.ในฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวถึงการล็อกดาวน์ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้เรียกประชุมเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับมาตรการต่างๆ กรณี ศบค.และกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีมาตรการล็อกดาวน์กรุงเทพฯและปริมณฑล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจภูธร (บช.ภ.) 1-9 และ บช.น.มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ในการขานรับนโยบายของรัฐบาลและ ศบค.โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า กรณีรองรับมาตรการของ ศบค.นั้น บช.น.ได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมด 5 เรื่อง 1. การตั้งจุดตรวจจุดสกัดควบคุม 2. การดูแลแคมป์คนงาน 3. การออกตรวจสถานที่เสี่ยงร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 4. การจัดชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจสอบการกระทำความผิด หรือแก้ไขปัญหา 5. การรับแจ้งจาก 191 สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบจากโรคระบาด.