MGR Online - รองฯต๊ะ เตือน ผู้ประกอบการร้านค้า อย่าหลงเชื่อปลุกระดมอารยะขัดขืน ฝ่าฝืนคำสั่งนั่งกินในร้าน ชี้หลอกให้ซื้อวัตถุดิบกักตุน แต่สุดท้ายเปิดขายไม่ได้ ซ้ำยังถูกดำเนินคดี เผย มีแค่ 10 ร้านเท่านั้นที่ยังดื้อ
วันนี้ (4 ก.ค.) เวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์ประกาศเชิญชวนร้านอาหาร ร่วมกันแสดงอารยะขัดขืนต่อต้านมาตรการห้ามกินในร้าน ว่า มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในการจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่มในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ฉบับที่ 25
จากการตรวจสอบพบว่า ระยะที่ 1 เปิดขายอาหาร และเครื่องดื่มกลับบ้าน แต่ในร้านมีการเปิดเวทีปราศรัย เล่นดนตรีแบบ ดาวกระจายทั่วกรุงเทพฯ ระยะที่ 2 ให้เปิดนั่งรับประทานอาหาร ขายเหล้าเบียร์ มีการเล่นดนตรีภายในร้าน แล้วถ้ายังไม่มีมาตรการผ่อนคลาย ก็ให้ดำเนินการในระยะที่ 3 คือออกมาเปิดร้านขายอาหารบนถนน เปิดลานเบียร์ ตั้งเวทีเล่นดนตรี และปราศรัยใหญ่
"สำหรับการที่ร้านขายอาหาร หรือเครื่องดื่ม โดยให้นั่งรับประทานในร้าน หรือเปิดนอกเวลาที่อนุญาต และการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน รวมถึงการจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเกินกว่า 20 คน จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ ตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 ฉบับที่ 25 และประกาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) ฉบับที่ 34" น.2 กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า การที่ กทม.มีมาตรการต่างๆ ออกมาบังคับใช้นั้น ขอยืนยันว่าเป็นมาตรการในการป้องกันและควบคุม เพื่อลดความรุนแรงและการแพร่ระบาดของโรคร้ายให้ลดน้อยลง บช.น.เข้าใจและมีความเห็นใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ หากเราไม่ช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนดไว้ ก็จะไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้
จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ ที่มีผู้ชักชวนให้ทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดโดยผิดกฎหมาย อย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะท่านอาจจะถูกหลอกลวงให้ซื้อวัตถุดิบ หรือสินค้ามาเตรียมไว้ แล้วไม่สามารถเปิดร้านขายได้ ทำให้ขาดทุนและได้รับความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ขอเตือนผู้โพสต์ แชร์ หรือส่งต่อข้อความดังกล่าว ขอให้เห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว อย่าหลอกลวง หรือซ้ำเติมให้ใครได้รับความเสียหายมากไปกว่านี้
การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนละเมิดกฎหมาย เป็นความผิดตามกฎหมาย และหากการโพสต์ แชร์ หรือส่งต่อทางโซเชียล หรือระบบคอมพิวเตอร์จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 ฝากประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบเห็นบุคคลใดที่กระทำการในลักษณะ อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขอให้แจ้งตำรวจที่อยู่ใกล้เคียง สายด่วน 191 เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค สายด่วน 1599 เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายในทันที
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า กระแสในโซเชียลที่มีการปลุกระดมให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ออกมาเปิดให้บริการลูกค้าตามปกติโดยอ้างอารยะขัดขืน การโพสต์ปลุกระดมดังกล่าวนั้น เป็นการหลอกให้ร้านอาหารที่เดือดร้อน และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่แล้ว ออกมากักตุนอาหาร และวัตถุดิบเพื่อเปิดให้บริการ แต่ไม่สามารถขายได้และต้องถูกตำรวจจับกุม หรือเกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจ เป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการอย่างหนัก
การประกาศชักชวนโดยอ้างว่า มีผู้ประกอบการร่วมแสดงอารยะขัดขืนกว่า 200 ร้าน ความเป็นจริงมีเพียง 10 ร้านเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังเข้าใจสถานการณ์ในขณะนี้ ขอย้ำว่าการออกมาเปิดร้านในในลักษณะมั่วสุม แสดงดนตรี หรือปิดถนน ต้องถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีแน่นอน ย้ำว่าผู้ประกอบการ หรือประชาชนต้องปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งของ กทม.อย่างเคร่งครัด ขณะนี้สามารถซื้ออาหารกลับบ้านได้เท่านั้น ห้ามนั่งในร้านเด็ดขาด.
