MGR Online - รมว.ยุติธรรม เผย มูลนิธิออมสินมอบบ้านใหม่ให้ 4 หญิงชรา และไม่ได้ใช้เงินบริจาค พร้อมกำชับกรมบังคับคดีปรับทำงานยึดการเอื้ออาทรช่วยเหลือชาวบ้านเป็นหลัก
วันนี้ (3 ก.ค.) เวลา 10.30 น. ที่บ้านเลขที่ 20/3 หมู่ที่ 6 ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานในพิธีมอบบ้านเดี่ยว 1 หลัง ให้แก่ 4 แม่เฒ่า และทำบุญบ้านใหม่ โดยมี นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย, นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ, นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ, ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม และ นายอำเภอศรีสำโรง เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ผู้นำท้องถิ่น ร่วมงาน
นานสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ความสำเร็จการแก้ปัญหา ต้องขอบคุณ ธนาคารออมสิน ที่เป็นที่พึ่ง เป็นธนาคารเพื่อสังคมแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และดูแลความเป็นอยู่ที่ดี ปัญหาของเรื่องนี้เริ่มต้นที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานมาทางตน และตนประสานผ่าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และท่านได้ส่งข่าวไปยัง นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสิน และมูลนิธิออมสินเพื่อสังคม ซึ่งได้เห็นความเดือดร้อนของ 4 แม่เฒ่า จึงได้มอบบ้านให้ดำรงชีพมูลค่า 1,400,000 บาท โดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ โดยมอบผ่านมูลนิธิ ซึ่งหลายท่านสงสัยเรื่องเงินบริจาคของประชาชนในขณะนี้ ยอดรวมเงินบริจาคประมาณ 2,100,000 บาท รวมทั้งบ้านและเงินบริจาคมูลค่า 3,500,000 บาท เราไม่ได้เอาเงินบริจาคมาซื้อบ้าน ยังอยู่เต็มๆ แต่บ้านนี้เป็นมูลนิธิออมสินที่รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนบ้านหลังเดิม ใครมีสติปัญญาทางกฎหมายจะช่วยแม่เฒ่าอย่างไร เราเปิดโอกาสให้ช่วยได้เต็มที่ แต่ตนคงไม่ไปยุ่งเกี่ยวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีในวันนี้ มีนางโปรย อนุเคราะห์ และ นางตะล่อม ทิมแย้ม เป็นตัวแทน 4 แม่เฒ่า มาร่วมพิธีรับมอบ ส่วน น.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม และ น.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม มีอาการป่วยต้องไปพบแพทย์และจะเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็น ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้มอบพระพุทธรูปเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านใหม่ด้วย ซึ่งงานในวันนี้ก็ยังมีภาครัฐและภาคเอกชนได้เข้ามอบเงินช่วยเหลือ 4 แม่เฒ่า อีกกว่า 3 แสนบาท ซึ่งยังคงมีการเปิดรับเรื่อยๆ
หลังเสร็จพิธี นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงในเรื่องนี้ และได้กำชับ ส่งข้อความมาหาตนเมื่อคืนให้ทำให้เสร็จ ซึ่งตนได้ชี้แจงรายละเอียดและรายงานผลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของเงินบริจาคจะเก็บไว้ให้คุณยายทั้ง 4 คนใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยจ่ายเดือนละ 1,600 รวมกับ เบี้ยผู้สูงอายุ 800 บาท รวมเป็นเงิน 2,400 บาทต่อเดือน เฉลี่ยจะได้ประมาณ 30 ปี โดยจะมีคณะกรรมการคอยดูแลเบิกจ่ายจากบัญชีสงเคราะห์ ในส่วนของการบังคับคดี ตนก็มีข้อติดใจอยู่ อาจจะมีเรื่องของการเอื้ออาทร ซึ่งคงจะมีการปรับการทำงานของกรมบังคับคดี ให้เพิ่มเรื่องการเอื้ออาทรให้เหมือนกับธนาคารออมสิน มีความเป็นมนุษยธรรมมากขึ้น เรื่องนี้ต้องดำเนินการ และได้ร่างแนวทางไว้แล้ว สัปดาห์หน้าจะได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงในแต่ละจังหวัดประชุมกัน นอกจากนี้ ตนขอประชาสัมพันธ์การทำงานของกองทุนยุติธรรม ซึ่งมีเงินช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีอาญา และจำเลยที่สามารถช่วยด้านการประกันตัว
“มีคนครหาบอกว่า นางนิตยา จิวตระกูล โจทก์ผู้ฟ้อง 4 แม่เฒ่า เป็นหัวคะแนนและสนิทกับผม ขอยืนยันไม่เป็นความจริง การให้ข้อมูลลักษณะนี้เป็นเกมการเมือง เป็นการพยายามให้ร้ายป้ายสีผม พฤติกรรมเช่นนี้เป็นการกระทำที่เลวจริงๆ ผมไม่ได้สนิทสนมและไม่เคยพบกับนางนิตยา 20 กว่าปีแล้ว ซึ่งเมื่อวาน ผมรู้สึกโกรธมากที่ไปหาที่บ้าน แต่ไม่เปิดบ้านให้พบ ดังนั้น ข้อครหาไม่เป็นความจริง” นายสมศักดิ์ กล่าว