รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 30 มิ.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ คนละครึ่ง เฟส 3 ช็อต สิ้นมนต์ขลัง คนไม่มีเงิน
มาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกเดือนกรกฎาคม 2564นี้ ถือเป็นการช่วยเหลือได้ครอบคลุมประชากรมากที่สุดถึง 51 ล้านคน โดยใช้งบประมาณรวมกว่า 2.25 แสนล้านบาท ซึ่งยังอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท
โครงการ ‘คนละครึ่งเฟส 3 ประชาชนสามารถลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 3,000 บาท โควต้า 31 ล้านคน โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยอายุ18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ถือเป็นหัวหอกนำขบวนขับเคลื่อนโครงการโยบายประชานิยมนี้เช่นเดิม
แต่ผิดคาด เหลือเพียง 1 วัน ยังเหลืออีก กว่า 2.4 ล้านสิทธิ รับสิทธิ์ภาครัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 1,500 บาทต่อคน แบ่งโอนวงเงินสิทธิให้ 2 รอบๆ ละ 1,500 บาท รวม 3,000 บาทตลอดโครงการ โดยรอบแรกรัฐจะโอนเข้าแอพฯ เป๋าตัง
ก่อนหน้านี้ จากการเปิดลงทะเบียน 4 วันแรก หลังจากวันที่ 14 มิถุนายน 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการลงทะเบียนรับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ของประชาชนว่า จากการเปิดลงทะเบียน 4 วันแรก
มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวน 27.1 ล้านคน จากทั้งหมด 31 ล้านคน แต่ไม่น่าเชื่อเหลือสิทธิอีกเพียงไม่ถึง 4 ล้าน กลับช็อตไปไม่มีคนมาลงทะเบียนไปเสียดื้อๆ หรือถ้ามีก็น้อยมาก
การลงทะเบียนที่เต็มช้ากว่าที่คาดการณ์ ต่างจากโครงการคนละครึ่งเฟส 1 และ เฟส 2 ที่ผ่านมา พบว่าสิทธิเต็มภายในไม่ถึงชั่วโมงของการเปิดทะเบียนให้ลงวันแรก 2 ครั้ง ที่เปิดให้ลงทะเบียนไม่นาน ไม่ว่ากี่ล้านสิทธิก็เต็มอย่างง่ายๆ
ส่วนโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ลงทะเบียนวันแรก บ่ายโมงยังเหลือกว่า 10 ล้านสิทธิ
ทำให้มีคำถามว่า เกิดอะไรขึ้น หากรัฐบาลจะอ้างว่าระบบขัดข้อง ไม่สอดคล้องกับการที่เปลี่ยนวิธีการรับสิทธิที่ต้องลงทะเบียนทุกคนทั้ง 31 ล้านสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ เพราะภาครัฐกับธนาคารให้ข้อมูลไม่ตรงกัน
ผู้ที่เคยได้รับสิทธิต้องลงทะเบียนด้วย ผู้ใช้งานบางส่วนเจอปัญหาเข้า แอปฯ เป๋าตัง ไม่ได้ ไม่สามารถเข้าไปลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันกระเป๋าตังค์ เนื่องจากระบบไม่มีความเสถียรพอที่จะรองรับปริมาณ จราจรหนาแน่นของคนจำนวนมากที่ต้องการลงทะเบียน
แต่พอผ่านวันแรกไปฉลุยกันไปทุกคน ไม่เหมือนครั้งเดิมๆ ที่ต้องลุ้นแล้วลุ้นอีก ว่าจะลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิได้หรือไม่ ซึ่งข้ออ้างเรื่องระบบก็ต้องตัดทิ้งไป
เมื่อมองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จในเฟส 1 และ 2 ที่คนแย่งสิทธิกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนรัฐบาลภูมิใจเอามากๆ กับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการคนละครึ่ง
ปัจจัยความสำเร็จของคนละครึ่งถูกมองว่ามาจากการที่ตัวโครงการจูงใจให้เกิดการใช้จ่ายได้จริง เพราะราคาสินค้าถูกลงครึ่งหนึ่ง ขณะเดียวกันด้วยข้อกำหนดที่ไม่เปิดให้กิจการรายใหญ่เข้าร่วมโครงการยิ่งทำให้เม็ดเงินกระจายลงสู่กิจการรายย่อยได้เป็นอย่างดี
ตัวเลขเฟส 3 ที่คนมาใช้สิทธิไม่เต็มนี้ สะท้อนได้ถึงมนต์ขลังของคนละครึ่งมันไม่รุนแรงพอจะกระชากความสนใจของคนไทย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจปากท้อง
หรือว่า คนอาจไม่มีเงินที่จะเติม เพื่อใช้จ่ายคนละครึ่งแล้ว
การลงทะเบียนยังไม่เต็มสิทธิแสดงให้เห็นว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนหมดแล้ว แม้รัฐบาลจะช่วยออกครึ่งหนึ่ง ประชาชนก็ไม่เหลือเงินที่จะจ่ายอีกแล้ว
การต้องเติมเงินแล้วไปจับจ่ายซื้อของ โดยเฉพาะกับบรรดาของกินมากกว่า จึงทำให้คนไทยหันไปสนใจสิ่งที่ได้ประโยชน์กว่า จึงทำให้คนละครึ่งรอบล่าสุดต้องเงียบเหงา สิ้นมนต์ขลังไป