ตำรวจ สน.พหลโยธิน คุมตัวอดีตทหารเกณฑ์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อ ปากซอยลาดพร้าว 25 และผู้ป่วยโควิด-19 ใน รพ.สนาม ปทุมธานี เสียชีวิต
วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้ควบคุมตัว นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการเมื่อปี 2562 ก่อเหตุยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อ และผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนาม มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านสะดวกซื้อ ปากซอยลาดพร้าว 25 และโรงแรมแห่งหนึ่งที่ใช้ในการดื่มสังสรรค์ ซึ่งอยู่ใกล้กัน
จุดแรกเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งที่ใช้นายกวิน ใช้ดื่มกินกับเพื่อน จุดนี้ใช้เวลาทำแผนไม่นาน เนื่องจากไม่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายกวิน ไปที่ร้านสะดวกซื้อ ปากซอยลาดพร้าว 25 โดยตำรวจให้นายกวิน ชี้จุดตอนเดินมาที่แคชเชียร์ มีปากเสียงกับพนักงานร้านสะดวกซื้อ และยิงปืนเข้าใส่ 6 นัด แล้วถามว่า ตายหรือยัง จากนั้นภรรยาผู้เสียชีวิตอยู่ในร้าน พยายามจะวิ่งเข้ามาทำร้ายนายกวิน แต่เพื่อนๆ ห้ามไว้ เมื่อทำแผนเสร็จสิ้น นายกวิน พูดว่าอยากขอโทษ ฝากถึงครูฝึกเขาทำให้ตนต้องเป็นแบบนี้
ระหว่างทำแผนมีประชาชนที่มารอดูต่างตะโกนด่า สาปแช่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายกวิน ไปขึ้นรถตำรวจกลับไปสอบปากคำและควบคุมตัวที่ สน.พหลโยธิน
ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนของทางปทุมธานีได้เข้ามาสอบปากคำผู้ต้องหาโดยในช่วงบ่ายวันนี้จะมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สถาบันธัญลักษณ์ จ.ปทุมธานี ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวผู้ต้องหาด้วยสำหรับการดำเนินคดีในส่วนของสน.พหลโยธิน หลังจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพและดำเนินการสอบสวนแล้วได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน จากเดิมที่ออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร เนื่องจากปรากฏในพยานหลักฐานภายหลังว่า ผู้ต้องหามีเวลาตัดสินใจกลับมาก่อเหตุอีกครั้งทำให้ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมดังกล่าว ส่วนอาวุธปืนของผู้ต้องหาที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่พหลโยธินนั้น เป็นอาวุธปืนลูกโม่ซึ่งมีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ในส่วนของปทุมธานีนั้นเบื้องต้นทราบว่าได้ใช้อาวุธปืนสองกระบอก อย่างไรก็ตามจะต้องมีการพิสูจน์ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งในเรื่องของหัวกระสุนและปลอกกระสุนเพื่อเทียบเคียงกับสถานที่เกิดเหตุ
เมื่อถามว่าจากการสอบสวนว่าผู้ต้องหามีภาวะทางจิตหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการสอบในทุกมิติทั้งการเชิญแพทย์หรือนักจิตวิทยาเข้ามาตรวจสอบเพื่อประกอบไปในสำนวนในรายละเอียด แต่ทั้งนี้ไม่ว่าผู้ต้องหาจะอ้างอย่างไร จะเป็นไปด้วยภาวะเครียดหรือเป็นโรคก็แล้วแต่ แต่ตำรวจจะต้องพิจารณาว่าส่งผลต่อสติสัมปชัญญะมากน้อยแค่ไหนในขณะก่อเหตุ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องเอามาประกอบในสำนวน
ทั้งนี้ย้ำว่า สำหรับการจับกุมนายกวินครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่และทำการแกะรอย จึงพบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่โรงแรมกับเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ที่ให้ความเคารพนับถือและมักจะมาปรับทุกข์ โดยยืนยันว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว จากพยานแวดล้อมและประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุให้การไปในทิศทางเดียวกันว่านายกวิน ได้ก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียวส่วนรุ่นพี่นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จากการทำงานลงพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบกับพยานรุ่นพี่คนนี้ภายในห้องพักขณะกำลังนอนหลับอยู่ ทำให้ทราบชื่อนามสกุลและทะเบียนรถของตัวผู้ต้องหานำมาสู่การจับกุมตัวได้เร็ว
ต่อมา เวลาประมาณ 11.30 น. ทางพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้เดินทางมาขออายัดตัวและนำตัวนายกวินไปชี้จุดที่ก่อเหตุกราดยิงในรพ.สนาม ในพื้นที่จ.ปทุมธานี ต่อไป