“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2564 ตอน ทะลวงใส้ใน "สามมิตร" หลังโดนยึดอำนาจ
อนาคตทางการเมืองของ"กลุ่มสามมิตรเดิม"หรือกลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน ในพรรคพลังประชารัฐ ต่อจากนี้จะเดินทางการเมืองต่อไปอย่างไร เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่ง
หลังกลุ่มสมศักดิ์ ที่มีคีย์แมนสามตัวหลักคือสมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เสียดุลอำนาจการเมืองในพลังประชารัฐ ไปแบบเจ็บปวด
เมื่อแกนนำกลุ่ม เสี่ยแฮงค์ อนุชา นาคาศัย ถูก ธรรมนัส พรหมเผ่า กระชากเก้าอี้ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปแบบต่อหน้าต่อตา ทั้งที่ อนุชา เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ครบปีด้วยซ้ำ
การต้องอยู่พลังประชารัฐ แบบยอมกลืนเลือดในช่วงนี้ไปก่อน สุดท้ายแล้ว เมื่อจังหวะมาถึง กลุ่มสมศักดิ์ หรือสามมิตรเดิม จะเลือกอยู่พลังประชารัฐต่อไป หรือจะย้ายไปอยู่พรรคอื่น หากมีข้อเสนอที่ดีกว่าการอยู่พลังประชารัฐ
เพราะช่วงที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าว อดีตกลุ่มสี่กุมารพลังประชารัฐ ทั้ง อุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กำลังง่วนอยู่กับการวางแผนซุ่มเตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่
หลังโดน คนในพลังประชารัฐเท แบบไม่ใยดี ถูกบีบออกจากทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รวมถึง ตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งรมว.คลังและ รมว.พลังงาน
กลุ่มสี่กุมาร ขอล้างตา พิสูจน์ให้รู้ว่า แม้ว่าไม่มีเงาบิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พวกตนก็สามารถตั้งพรรคการเมืองเองได้ โดยจะมี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ลูกพี่ใหญ่คอยคัดท้ายให้
เลยมีข่าวกระเซ็นกระสาย ออกมาคล้อยหลัง แบบโยนหินถามทางทันทีเมื่อ อนุชา โดนธรรมนัส ยึดเก้าอี้เลขาธิการพรรคไปว่า ไม่แน่ สมศักดิ์ สุริยะ จะกลับไปรียูเนี่ยนความหลังการเมืองกับสมคิด พลิกตำนาน 3 ส. สามมิตร สมศักดิ์ สุริยะ สมคิด ขึ้นมาอีกที ทำพรรคการเมืองใหม่อีกสักรอบ
ส่วนเรื่องในอดีต ที่สมศักดิ์ สุริยะ อนุชา ไม่ช่วยปกป้อง กลุ่มสมคิด ในพลังประชารัฐ จน กลุ่มสมคิด เก็บของออกจากพรรคและใน ครม.แทบไม่ทัน เชื่อว่า ของแบบนี้ นักการเมืองรุ่นใหญ่ คงไม่ติดใจกันแล้ว
เพราะสมคิด ก็รู้ดีว่า สมศักดิ์ สุริยะ อยู่ในสถานการณ์ต้องหลิวลู่ลม ตามกลุ่มต่างๆ ในพลังประชารัฐ ที่จับมือกันบีบกลุ่มสมคิด ทำให้ สมศักดิ์ สุริยะ เลยต้องเออออ ไปด้วย
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ข่าวว่า กลุ่มสมคิดเอง ทั้งอุตตม สนธิรัตน์ หลังๆ เริ่มมีข่าว ว่าสุดท้าย อาจถอดใจ ไม่ทำพรรคใหม่แล้ว คงเห็นแล้วว่า เข็นลำบาก เพราะไม่มีมือ มีไม้ คอยหนุนทั้งแบบเปิดหน้า และอยู่ข้างหลัง เหมือนตอน อุตตม สนธิรัตน์ รับบทนอมินีให้ บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่มีเครือข่าย คสช.คอยแบ็คอัพให้ จากพรรคทหารในตอนแรก จนตอนนี้กลายเป็นพลังประชารัฐ
ทำให้ระยะหลังมีข่าวว่า กลุ่มสมคิด เริ่มแกว่ง อาจไม่คิดตั้งพรรคเองแล้ว แต่หากบางคนในกลุ่ม เช่น สนธิรัตน์ หากจะทำการเมืองต่อ ก็อาจใช้วิธี ไปเกาะอยู่ตามพรรคการเมืองอื่นๆ จะดีกว่า
เมื่อมีข่าวกลุ่มสมศักดิ์จะย้ายไปตั้งพรรคใหม่ กับกลุ่มสมคิด เป็นไปได้ที่กลุ่มอุตตม กับสนธิรัตน์ อาจจะกลับมาฮึดสู้อีกที
ส่วนสมศักดิ์จะยกพวก จะไปซบพรรคอื่นๆ โดยเฉพาะจะกลับไปอยู่ พรรคภูมิใจไทย แบบที่ สมศักดิ์ อนุชา เคยอยู่ ช่วงสั้นๆ ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนเคยได้โควต้ารัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ที่ตอนนั้น พรทิวา นาคาศัย ได้เป็นรมว.พาณิชย์ มาถึงยุคนี้ ดูลู่ทางแล้ว สมศักดิ์ สุริยะ อนุชา คงไม่ค่อยอยากกลับไปอยู่กับเนวิน ชิดชอบ สักเท่าไหร่
จึงไม่แน่ สุดท้าย แล้ว กลุ่มสมศักดิ์ อาจยอมกลืนเลือด อยู่พลังประชารัฐต่อไปเพราะยังไง การอยู่กับพลังประชารัฐโดยเฉพาะการเลือกตั้งรอบหน้า ที่มีแนวโน้มที่พลังประชารัฐ จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบ
เพราะตอนเลือกตั้ง กลุ่มสมศักดิ์ไม่ต้องควักเงินลงขัน หรือควักบ้างแต่ไม่มาก เหมือนครั้งก่อน เนื่องจาก อนุชา ก็ไม่ได้เป็นเลขาธิการพรรคแล้ว เลยไม่ต้องรับผิดชอบมาก แต่ที่สำคัญเลยคือ กลุ่มสมศักดิ์ อยู่พลังประชารัฐต่อ ก็มีโอกาสที่ทั้งสมศักดิ์ สุริยะ อนุชา จะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง อีก
มองแบบนี้แล้ว กลุ่มสมศักดิ์ คงคิดว่า แล้วจะย้ายพรรคไปเพื่ออะไร ให้เปลืองเงิน เปลืองแรง สู้อยู่พลังประชารัฐต่อไป รอเป็นรัฐบาล รอเป็นรัฐมนตรีสบายใจกว่ากันเยอะเลย
ซึ่งคนอย่างสมศักดิ์ เล่นการเมืองมาหลายสิบปี มีแต่เป็นรัฐบาลไม่ค่อยเป็นฝ่ายค้าน ทำไมสมศักดิ์จะอ่านสถานการณ์ไม่ออก หากย้ายออกจากพลังประชารัฐไปอยู่พรรคอื่น ของมันไม่ชัวร์เหมือนอยู่พลังประชารัฐต่อไป
ขณะที่กลุ่มสมศักดิ์ ก็รู้ตัวดีว่า ศักยภาพของกลุ่มตัวเอง ในพลังประชารัฐ ไม่เหมือนเดิมแล้ว มีปัญหาระยะหลังที่กลุ่มสมศักดิ์เจอกับตัวเองในพลังประชารัฐ ก็คือ ส.ส.ในกลุ่มบางคน จากเดิมที่เคยเคลมว่ามีอยู่ประมาณ 35-40 เสียงตอนช่วงตั้งรัฐบาลใหม่ๆ
แต่ พบว่าระยะหลัง ส.ส.บางคนในกลุ่ม ย้ายข้าง ไปอยู่กับกลุ่ม 4 ช.ของธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคคนใหม่ไปนานแล้ว ซึ่งแต่ละคนไปแล้วได้รับการดูแลแบบรายเดือนดีกว่าอยู่กลุ่มสมศักดิ์ แบบเบิ้ลเป็นสองเท่า เสียด้วย
ประเมินว่า จากเดิมที่ส.ส.ในกลุ่มสมศักดิ์หลักๆ จะอยู่ในจังหวัดเช่น สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ชัยนาท ชัยภูมิ ราชบุรี เพชรบุรี ตอนนี้ เช็คชื่อดูแล้ว กลุ่มสมศักดิ์ เหลือจริงๆ อยู่แค่ระดับต่ำกว่ายี่สิบคน
เพราะว่า มี ส.ส.กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง เช่น พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ ตอนนี้มีการรวมกลุ่มกันเป็นเครือข่ายย่อยๆ แยกออกมาจากกลุ่มสมศักดิ์ โดยมีอดีตนายทหารคนดังคนหนึ่ง ที่ช่วยงาน ธรรมนัส ในพลังประชารัฐ แต่ไม่เปิดเผยตัว คอยดูแลทั้งเรื่องส่วนตัวและในพื้นที่ให้
จึงอย่าได้แปลกใจ ภายในพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มธรรมนัส มีแต่เติบใหญ่ ส่วนกลุ่มสมศักดิ์ ก็สาละวันเตี้ยลง เก้าอี้ เลขาธิการพลังประชารัฐของอนุชา เลยกระเด็นอย่างที่เห็น