“ดร.เซปิง” เซเลบคนดัง ยื่นฟ้องทนายความผู้เสียหายจากศัลยกรรม ฐานหมิ่นประมาท-นำข้อมูลเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ กล่าวหาทำตัวเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ
วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดา น.ส.เซปิง หรือ ดร.เซปิง ไชยศาส์น ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟ ได้เดินทางมายื่นฟ้อง นายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน ทนายความผู้เสียหายจากศัลยกรรม ที่เคยไปออกรายการข่าวเที่ยงทีวีช่องหนึ่งในข้อหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ทุจริต หลอกลวง บิดเบือน หรือปลอมข้อมูลทั้งหมด หรือแต่บางส่วนว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550”
โดย ดร.เซปิง กล่าวว่า วันนี้ได้มายื่นฟ้อง นายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน ทนายความ เนื่องจากล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 นายภิญโญภัทร์ ได้ให้ข้อมูลและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายสำนักอันเป็นเท็จ บิดเบือนความจริง กล่าวหาว่า ดร.เซปิง เป็นเจ้าหนี้นอกระบบ ฟ้องร้องเรียกหนี้จากลูกหนี้ ซึ่งนายภิญโญภัทร์เองก็ไม่ได้เป็นทนายความของลูกหนี้
“ให้สัมภาษณ์สื่อและโพสต์ข้อความกระพือข่าวออกไปว่าดิฉันทำตัวเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ และฟ้องเรียกหนี้จากลูกหนี้ของตน ลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม ทำให้ได้รับความเสียหายมาก เนื่องจากดิฉันเองให้การช่วยเหลือกับผู้ทำศัลยกรรมโดยที่เขาไม่มีเงินมา ดิฉันจะสำรองจ่ายไปก่อน แต่พอทำศัลยกรรมสวยแล้วก็ไม่ชดใช้เงิน จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ฟ้องต่อศาลแพ่ง โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี” ดร.เซปิง กล่าว
ดร.เซปิง กล่าวต่อว่า นายภิญโญภัทร์ เป็นทนายความคดีที่ศาลอุทธรณ์เพิ่งตัดสินและคดียังไม่ถึงที่สุด แต่นายภิญโญภัทร์กลับนำภาพถ่ายตลอดจนข้อมูลอันเป็นเท็จส่งให้แก่สื่อต่างๆ โดยมีเจตนาทำให้ ดร.เซปิง ได้รับความเสียหายจึงมาใช้สิทธิฟ้องคดี นายภิญโญภัทร์ ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดอาญาต่อ ดร.เซปิง มาแล้ว 2 คดี รวมคดีนี้ก็เป็น 3 คดี
คดีแรก เป็นเรื่องหมิ่นประมาทออกรายการโหนกระแส คดีหมายเลขดำที่ อ.1693/2562 คดีที่ 2 เป็นคดีอ.513/2564 ที่มีการฟ้องเป็นคดีแพ่ง
“ในระหว่างพิจารณาคดีของศาลนายภิญโญภัทร์ ได้นำเอกสารสำคัญของดิฉินเอาไปเก็บซุกซ่อนในกระเป๋าส่วนตัว ซึ่งนายภิญโญภัทร์ปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป แต่ศาลไม่เชื่อให้ค้นกระเป๋า ก็พบเอกสารที่หายไป ตนไม่เคยเห็นทนายความกระทำแบบนี้เพื่อให้ชนะคดี จึงจะไปดำเนินการร้องต่อสภาทนายความเพื่อขอให้เพิกถอนใบอนุญาตว่าความต่อไป” เซเลบคนดัง กล่าว