xs
xsm
sm
md
lg

ศาลเรียกแม่ “เพนกวิน”- อาจารย์ มธ.ไต่สวนปมโพสต์เฟซบุ๊ก ชี้ยังไม่ผิดเงื่อนไขประกัน แต่กำชับให้ดูแลใกล้ชิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ หรือเพนกวิน เดินทางมาศาล
ศาลอาญาเรียกไต่สวนมารดา และอาจารย์ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้กำกับดูแล “เพนกวิน” ชี้ยังไม่กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว แต่กำชับ ให้ดูแลให้ใกล้ชิด หากโพสต์ข้อความลักษณะเดิม ก็จะใช้ดุลยพินิจพิจารณาสั่งประกัน ด้านมารดา"เพนกวิน"รับปากจะช่วยดูแล ตักเตือนไม่ให้กระทำผิด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญานัดไต่สวน นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดา, บิดา และผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้กำกับดูแลของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.286/2564 และ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาเป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน เป็นจำเลยทั้ง 2 คดี ฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงฯ จากที่มีผู้ยื่นคำร้องกล่าวหาว่า ภายหลัง นายพริษฐ์ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาล ถูกร้องว่าได้มีพฤติการณ์กระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว ด้วยการโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก “สาส์นแรกแห่ง อิสรภาพ” และร่วมทำกิจกรรมทางการเมือง ยืน 112 นาที ปล่อยเพื่อนเราบริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง

ในวันนี้นายไพรัช,นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อดิศร จันทรสุข ผู้กำกับดูแลนายพริษฐ์ จำเลยที่ 1และทนายความมาศาล

โดยศาลได้มีคำสั่งทั้ง 2 สำนวนว่า ได้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหนังสือเสนอเรื่องร้องทุกข์ของนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน (สภาผู้แทนราษฎร) ฉบับลงวันที่ 14 พ.ค.2564 ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี“ พริษฐ์ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” โพสต์ข้อความที่อาจมีลักษณะเป็นการผิดเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราวให้ผู้กำกับดูแลทั้งสามทราบ

 นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน
ผศ.ดร.อดิศร แถลงว่า จากข้อความที่ปรากฏในเฟซบุ๊กดังกล่าวนั้นอาจมีข้อถกเถียงในเรื่องของการตีความ แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ภายในขอบเขตเงื่อนไข ตามที่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว แต่อย่างไรก็ดีจะกำชับดูแลจำเลยที่ 1 ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราวที่ศาลกำหนดอย่างเคร่งครัด

นายไพรัช และ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แถลงว่า ตามเนื้อความที่ปรากฏในเฟซบุ๊กนั้นยังอยู่ในเงื่อนไขที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและยังไม่มีข้อความใดนอกเหนือไปจากเงื่อนไขที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและภายหลังศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยโดยมีเงื่อนไขก็ได้พยายามดูแลและกำชับให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยเคร่งครัดมาโดยตลอด

นายกฤษฏางค์ ทนายความนายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 แถลงว่า เกี่ยวกับข้อความที่นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1โพสต์ลงในเฟซบุ๊กนั้นหลังจากวันที่ 27 พ.ค. 2564 ซึ่งศาลได้เคยแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหนังสือเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ฯ ให้ทนายความจำเลยทราบในเบื้องต้นตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 27 พ.ค. 2564 นั้น ทนายความก็ได้พูดคุยกับนายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 แล้วเช่นกันและหลังจากวันที่ดังกล่าวนายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 ก็มิได้มีการโพสต์ข้อความในลักษณะทำนองเดียวกันตามที่มีการเสนอเรื่องราวร้องทุกข์อีก

ศาลจึงได้กำชับผู้กำกับดูแล นายพริษฐ์ ทั้งสามคน ให้ทำหน้าที่สอดส่องดูแลให้นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราวที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด หากปรากฏว่า นายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 มีการกระทำหรือมีการโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกันนี้อีกซึ่งอาจจะเป็นการผิดเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราว ศาลจะใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควรโดยเรียกมาไต่สวนเกี่ยวกับการผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวที่เห็นสมควร และจะพิจารณามีคำสั่งเกี่ยวกับการเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวนายพริษฐ์ จำเลยที่ 1 ตามที่เห็นสมควรต่อไป

ภายหลังไต่สวนเสร็จแล้ว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า ศาลได้มีการแจ้งผู้กำกับอาจารย์และมารดาให้เข้ามา ชี้แจงหลังจากที่นายสนธิญาได้ร้องทุกข์ ศาลได้มีการสอบถามผู้กำกับดูแลทั้งหมดว่าได้ดูโพสต์ ของนายพริษฐ์หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดชี้แจงว่าได้เห็นข้อความดังกล่าวแล้วและยังไม่เห็นว่าโพสต์ดังกล่าวจะผิดต่อเงื่อนไขของศาลแต่อย่างใด มุมมองของผู้อ่านอาจจะแตกต่างกัน หลังจากนี้จะกำกับดูแลให้อย่างใกล้ชิดต่อไป นอกจากนี้ตนยังเสนอต่อศาลว่ากรณีที่อาจจะมีบุคคลมาร้องเรียนกรณีการผิดเงื่อนไขของนายพริษฐ์ว่ากลุ่มดังกล่าว เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ด้าน นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดา กล่าวว่า วันนี้ไม่มีอะไรมาก ศาลเพียงแต่ซักถามว่าจากที่มีผู้ร้องเรียนว่านายพริษฐ์โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก นั้น มีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งตนได้อ่านดูแล้วก็แถลงต่อศาลว่า ยังไม่เห็นว่าข้อความที่ลูกชายเขียนนั้น มีตรงไหนที่ทำให้ผิดสัญญาเงื่อนไขประกัน แต่ก็แถลงต่อศาลว่า จะพยายามดูแล ตักเตือนลูกชายให้ เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามก็จ้องจับผิดอยู่ตลอดเวลา
กำลังโหลดความคิดเห็น