“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 1 มิถุนายน 2564 ตอน ร้าวลึก 3 ป.-ภูมิใจไทย
ประเด็นการแก้ไขโควิด-19 กับการกระจายวัคซีน กำลังสร้างรอยปริแยกกว้างขึ้นเรื่อยๆ ระหว่าง 3 ป.-พรรคพลังประชารัฐ กับพรรคภูมิใจไทย ทำให้หน้าฉากกับหลังฉากของรัฐบาล เป็นคนละเรื่อง
ขบเหลี่ยมกันมาหลายครั้งหลายหนผ่านสงครามตัวแทน ไล่ตั้งแต่ตอนที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.
ตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือก โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค. เป็นประธาน แต่กลับไร้ชื่อ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข จนถูกค่อนแคะว่าเป็นหมาหัวเน่า
เรื่อยมาถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจรวบอำนาจรัฐมนตรีมาไว้กับตัวเองเพื่อใช้จัดการโควิด-19 แบบเบ็ดเสร็จ จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการจงใจริบอำนาจรัฐมนตรี โดยเฉพาะ อนุทิน ที่เป็น รมว.สาธารณสุข แต่ต้องไร้ที่ยืนในการแก้ปัญหา
หรือแม้แต่การตั้งทหารอย่าง บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศบค.ชุดเล็ก เป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ขณะที่ หมอหนู กับ หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กลับได้นั่งเป็นแค่ที่ปรึกษาคณะกรรมการดังกล่าว
ขนาดศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่มี บิ๊กตู่ เป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดเกือบจะครบ แต่ก็ไม่มีชื่อ รมว.สาธารณสุขเช่นกัน
เรียกว่า อนุทิน ที่เป็น รมว.สาธารณสุข บริหารกระทรวงหมอที่รับผิดชอบเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ แต่แทบจะไม่มีอำนาจอะไรเลย ต้องไปอาศัยหาซีนเปิดงาน กับให้สัมภาษณ์ไม่ให้หายไปโลกแห่งแสง
แม้ที่ผ่านมา อนุทิน จะเอ่ยปากว่าไม่มีปัญหากับการที่ พล.อ.ประยุทธ์รวบอำนาจ และแต่งตั้งเฉพาะคนใกล้ตัวเป็นตำแหน่งต่างๆ แต่ลึกๆ ทุกคนต่างรู้ว่า อนุทิน ไมได้โอเคกับการถูกลดบทบาท เพียงแต่วันนี้ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต่อรอง หรือท้ารบได้
เต็มที่หากไม่พอใจเรื่องใด จะใช้ยุทธวิธีสงครามตัวแทนออกมาพุ่งชนใส่แกนนำรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกรณีเรื่องวอล์กอินที่ อนุทิน ออกตัวแรงว่าจะใช้วิธีนี้ ก่อนจะถูก บิ๊กตู่ เบรกกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และพับโปรเจกต์ไป ซึ่งทำ อนุทิน เสียหน้ามาก
โดยวันรุ่งขึ้นมี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย นำโดย ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ออกมาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความไม่พอใจที่ยกเลิกการวอล์กอิน กระทั่งเปิดวิวาทะกับ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ
จนพอหอมปากหอมคอ อนุทิน เลยออกมาแอ็กชั่นให้หยุด เรียกว่า แยบยลแต่ไม่แนบเนียนพอที่จะปิดบังได้ว่าเรื่องนี้หัวหน้ากับลูกพรรครับรู้กันมาก่อน
ขณะที่ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุขก็ถูกจับจ้องโจมตี เรื่องการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัดมาสักระยะ เพราะหลายพื้นที่การระบาดน้อย แต่กลับได้รับวัคซีนปริมาณมาก และบังเอิญเป็นจังหวัดที่มี ส.ส.พรรคภูมิใจไทยอยู่ด้วย
แต่ที่ จ.ชลบุรี นนทบุรี สมุทรปราการ ที่กำลังชุกชุมกำลังได้รับการจัดสรรไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ จนถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นเพราะไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคการเมืองที่ถูกเพ่งเล็งอยู่หรือไม่
และคิวที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หลายคนตั้งโต๊ะแถลงกันที่ที่ทำการพรรค ไม่พอใจการกระจายวัคซีน งานนี้ย่อมต้องได้ไฟเขียวจากผู้หลักผู้ใหญ่มาแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้ามาชักใบให้เรือเสีย
ที่ต้องฟันธงชัดๆ จะๆว่ารับไฟเขียวมาแน่นอน ก็เพราะอีกวันถัดมา พล.อ.ประยุทธ์ สั่งรื้อเกณฑ์การกระจายวัคซีนใหม่ จากที่ให้จองเข้ามา ใครจองเยอะได้เยอะ มาเป็นจัดสรรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการระบาดหนักๆ
แล้วถ้าจับอารมณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงระยะหลังมานี้ เหมือนไม่ค่อยพอใจพฤติกรรมหลายๆ อย่างของพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของลูกพรรค หรือคำให้สัมภาษณ์ของ อนุทิน อย่างล่าสุดพูดกลางที่ประชุม ครม.ลอยๆ ไม่เจาะจงใครว่า
“อะไรๆ ที่ยังไม่ชัดเจน ไม่ต้องรีบพูด”หรือง่ายๆ คือ อย่าปากไว ซึ่งช็อตนี้มีคนไปถอดรหัสว่า น่าจะสื่อไปถึง รมว.สาธารณสุขหรือไม่ เพราะชอบให้สัมภาษณ์ล่วงหน้าไปก่อน แต่พอทำไม่ได้ คนก็รุมด่ารัฐบาล เหมือนหางานมาให้เสมอ
ขณะที่เรื่องไหนทำท่าจะไม่รอด หรือไม่เป็นไปตามแผน รัฐบาลมีคิวโดนด่าแน่ๆ อย่างล่าสุดปมแอสตราเซเนกาจะมาทันวันที่ 7 มิถุนายนหรือไม่ อนุทิน ก็ออกตัวแล้วว่าให้ไปถาม พล.อ.ณัฐพล เอาเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ประหนึ่งเหมือนรีบปัดให้พ้นตัว ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไร้อำนาจ
ต้องบอกว่า มีจังหวะขบเหลี่ยมได้ขบเหลี่ยมกันตลอด งานนี้น่าสนใจ จบโควิด-19 หรือยุบสภา น่าจะมีการเช็กบิลย้อนหลังกันบ้าง