ศาลจังหวัดกาญจนบุรีมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยใช้เครื่องมือทางกฎหมายมาทดแทนการเรียกหลักประกันตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกา ว่า ด้วยมาตรฐานกลางในการปล่อยชั่วคราว พ.ศ.2563 เพื่อลดความแออัดในเรือนจำหลังมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโนนา 2019 สูงขึ้น
วันนี้ (24 พ.ค.) นายเอกพล ชุติมาธิกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงทุ่งสง ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ และทำให้มีผู้ติดเชื้อบางส่วนในเรือนจำหลายแห่งที่มีจำนวนผู้ต้องขังจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค อันอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิตของผู้ต้องหาในเรือนจำ ศาลจังหวัดกาญจนบุรีตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงประสานไปทางเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ผู้ต้องหาบางส่วนที่ไม่มีหลักทรัพย์ในการยื่นคำร้องขอปล่อย
ชั่วคราว ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องเสนอหลักประกัน (คำร้องใบเดียว) ต่อมามีผู้ต้องหายื่นคำร้องใบเดียวผ่านทางเรือนจำ จำนวน 25 คำร้อง
จึงมอบหมายให้ นายคนองเดช สวัสดิ์วงศ์วิชา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดกาญจนบุรี และนางสาวณปภัช ศรีสุวรรณ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาสั่งคำร้องใบเดียวโดยใช้วิธีการไต่สวนผ่านระบบประชุมทางจอภาพระหว่างศาลกับเรือนจำเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงในการประเมินถึงความเสี่ยงว่าผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีหรือก่อภัยอันตรายประการอื่นหรือไม่ ซึ่งหลังจากนั้นศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยใช้เครื่องมือทางกฎหมายมาทดแทนการเรียกหลักประกันตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยมาตรฐานกลางในการปล่อยชั่วคราว พ.ศ.2563
โดยเป็นการปล่อยแบบไม่มีประกัน 17 คำร้อง มีประกันแต่ไม่ต้องวางหลักประกัน 2 คำร้อง และกำหนดมาตราควบคุมหลังปล่อยชั่วคราวโดยตั้งผู้ใหญ่บ้านในแต่ละท้องที่เป็นผู้กำกับดูแลผู้ถูกปล่อยชั่วคราว 14 คำร้อง ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 2 คำร้อง กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ต้องหารายงานตัวต่อศาลทางโทรศัพท์เพื่อลดการเดินทาง 3 คำร้อง รวมแล้วสามารถปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาได้ 17 คน โดยผู้ต้องหาทุกคนที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเป็นบุคคลที่ผ่านการคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว ทั้งนี้การดำเนินการของศาลดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดความแออัดในเรือนจำ โดยตระหนักถึงอันตรายแก่ชีวิตของผู้ต้องหา แต่ก็ยังคำนึงถึงความสงบสุขของสังคมและความปลอดภัยของผู้เสียหายควบคู่ไปด้วย ตามนโยบายประธานศาลฎีกา ข้อ 2 สร้างดุลยภาพแห่งสิทธิลดการคุมขังที่ไม่จำเป็นในทุกขั้นตอน.