ชายนิรนามซิ่งรถ จยย.ชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อดูดฝุ่นของสำนักงานเขตสวนหลวง มันสมองกระจายเสียชีวิต บริเวณทางลงอุโมงค์พัฒนาการ ที่เกิดเหตุพบขวดเหล้าขาว 40 ดีกรีหล่นอยู่ พร้อมโทรศัพท์มือถือ
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ร.ต.อ.สถาพร โสตถิยิ้ม รอง สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุ รถ จยย.ชนท้ายรถดูดฝุ่นเสียชีวิต บริเวณทางลาดลงอุโมงค์พัฒนาการ ถนนพัฒนาการขาออก มุ่งหน้าตัดศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลนสวนกัน จากการตรวจสอบเชิงทางลาดลง จากปากอุโมงค์ 150 เมตร พบรถบรรทุก 6 ล้อ ดูดฝุ่นของสำนักงานเขตสวนหลวง ยี่ห้อยูดีทรัคส์ รุ่นโครเนอร์ สีเหลือง ทะเบียน 65-3363 กรุงเทพมหานคร จอดชิดขอบทางด้านซ้ายในลักษณะกำลังปฏิบัติหน้าที่โดยเปิดไฟวับวาบและไฟลูกศรสัญญาณตรงตามระเบียบทุกประการ ด้านท้ายรถพบศพ ชายนิรนาม อายุประมาณ 35-40 ปี ไม่มีเอกสารใดติดตัวตัดผมรากไทร รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ใส่รองเท้ารัดข้อยี่ห้อคอนเวิร์ส สภาพนอนคว่ำหน้ามีบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าผากจากการพุ่งชนถังเก็บฝุ่นของรถบรรทุกตรงฝั่งขวา จนเลือดปนมันสมองกระจายเกลื่อนถนน ใกล้กันพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีขาวคาดดำ ทะเบียน สวง 425 กทม.ของผู้ตายพลิกคว่ำ นอกจากนี้ ยังมีขวดเหล้าขาว 40 ดีกรี ยี่ห้อรวงข้าวหล่นอยู่ พร้อมโทรศัพท์มือถือซัมซุง ซึ่งได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้อีก 1 เครื่อง จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายโชติวิทย์ พัชรโรจน์นิธิ อายุ 50 ปี พนักงานขับรถดูดฝุ่น ให้การว่า นำรถออกมาปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 23 พ.ค.กระทั่งจุดสุดท้ายกำลังดูดฝุ่นในอุโมงค์พัฒนาการ อีกแค่ 500 เมตร จะเลิกงานนำรถกลับไปจอดที่สำนักงานเขต ปรากฏได้ยินเสียงคล้ายมีวัตถุบางอย่างพุ่งชนท้ายรถดูดฝุ่นอย่างแรง จึงรีบจอดรถลงมาดู พบว่า ผู้ตายขับขี่ รถ จยย.โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ใช้ความเร็วลงทางลาดอุโมงค์พุ่งมาชนท้ายรถตน จนเสียชีวิตคาที่ เมื่อตั้งสติได้จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่และรายงานผู้บังคับบัญชาให้รีบมาตรวจสอบ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ยังไม่แจ้งข้อหากับฝ่ายใด จะเชิญตัวคนขับรถดูดฝุ่นไปให้การที่ สน.คลองตัน อีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตมอบให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวช รพ.จุฬาฯ เพื่อทำการชันสูตรและตรวจผลแอลกอฮอล์ในเลือดอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนประสานให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป
