รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 18 พ.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ “ชัยวุฒิ”ลุยจริง ปะฉะดะเฟกนิวส์
เรียกว่าได้ใจลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และบรรดาแฟนคลับไปเต็มๆ เมื่อ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ออกโรงเทกแอ็กชั่น สั่งดำเนินคดีบรรดากลุ่มที่จ้องดิสเครดิตรัฐบาล
โดยอาศัยปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ปล่อยข่าวปลอม หรือเฟคนิวส์ สร้างความสับสน หวาดวิตกให้ประชาชน ถึงประสิทธิภาพวัคซีน ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียง
สวนทางกับรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ต่างออกมาให้ความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัย และพยายามกระตุ้นให้คนออกไปฉีดวัคซีนให้มากที่สุก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เอาชนะการระบาดโควิด-19
กระทรวงดีอีเอส ถือเป็นหน่วยงานที่เฝ้าระวังเฟคนิวส์อย่างเข้มข้นมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง ทำให้มีข้อมูล และสามารถเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฟคนิวส์ ได้อย่างต่อเนื่อง มีหน่วยหลักอย่างกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ที่ซุ่มเก็บข้อมูล ทำงานเงียบๆ และเมื่อพบความชัดเจนจึงจัดการทันที
การดำเนินคดีล่าสุด กับบัญชีผู้ใช้งานทั้งในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ รวมถึงผู้สื่อข่าวระดับผู้ช่วยบรรณาธิการ สำนักข่าวไทยพีบีเอส ที่ได้นำเสนอข้อมูลเท็จ กรณีหญิงสาวชาวอุดรธานี ได้รับผลข้างเคียงภายหลังจากได้รับวัคซีนSivovac ดีอีเอสก็ไม่มีละเว้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าผิดก็คือผิด และเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เป็นแบบอย่างเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
โดยข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ระหว่างวันที่ 7 เม.ย.-11 พ.ค. 64 พบจำนวนข้อความที่เกี่ยวข้อง 3,857,190 ข้อความ
"กระทรวงดีอีเอส" รู้ถึงความคาดหวังของสังคมกับภารกิจปราบปรามเฟคนิวส์ เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ ชัยวุฒิ ที่รู้ดีเช่นเดียวกันว่า ลุงตู่ ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนขนาดไหน
รวมถึง ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เห็นฝีไม้ลายมือ ชัยวุฒิ ที่ร่วมปลุกปั้นสร้างพรรคมาตั้งแต่ต้น มีบทบาทในวิปรัฐบาล ตำแหน่งเลขานุการ คอยประสานงานสภาและรัฐบาลมาโดยตลอด จึงมั่นใจให้ขึ้นเป็นรัฐมนตรี
ล่าสุด รมต.โอ๋ เปิดหน้าชนเพจดัง กรณีบิดเบือนข้อมูลเรื่องงบประมาณจัดทำโรงพยาบาลสนามบุษราคัม ที่อิมแพค เมืองทองธานี ว่าแพงกว่า แต่คุณภาพต่ำ เมื่อเทียบโรงพยาบาลสนาม ที่ พิมรี่พาย แม่ค้าเนตไอดอลคนดัง ไปลงทุนสร้างให้ จ.สุราษฎร์ธานี
โดยมองว่า มีความพยายามดิสเครดิตรัฐบาล และจงใจนำภาพเก่ามาเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลสนามของ พิมรี่พาย ให้เกิดความแตกแยกสับสนในสังคม
ไม่เพียงแต่สะกิดเตือน และชี้แจงรายละเอียดหักล้างละเอียดยิบเท่านั้น ชัยวุฒิ ยังแยกเขี้ยวใส่ให้ผู้ที่เป็นต้นตอหรือมีส่วนกับการนำเสนอข้อมูลดังกล่าว ดำเนินการลบโพสต์โดยด่วน และชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้สังคมรับทราบ มิเช่นนั้น กระทรวงดีอีเอส อาจต้องดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อไป
จะเห็นได้ว่าประเด็นที่ ชัยวุฒิ เลือกเล่นนั้น ไม่ได้สะเปะสะปะ หรือหมกมุ่นเฉพาะแต่มุมการเมืองมากเกินไป เหมือนผลงานของกระทรวงดีอีเอสที่ผ่านมา แต่ ชัยวุฒิ ยังให้ความสำคัญมิติด้านความมั่นคง และความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลด้วย
คงคาดการณ์ได้ไม่ยากว่า หลังจากนี้ กระทรวงดีอีเอส โดย ชัยวุฒิ คนเมืองสิงห์บุรี คงมีผลงานกวาดล้างเฟคนิวส์อีกขนานใหญ่ เพื่อรักษาเสถียรภาพความเชื่อมั่นของรัฐบาล และตอบแทนความไว้วางใจจากทั้ง2ลุง ที่ทำให้มาถึงจุดนี้