MGR Online - รอง ผบ.ตร.เผย ตำรวจนครบาล 30 นาย อาสาทำหน้าที่พนักงานเปล รพ.ตำรวจ ยันไม่บังคับเน้นความสมัครใจ ย้ำทุกคนได้รับสวัสดิการเบี้ยเลี้ยง-ประกันโควิด-ฉีดวัคซีน เตรียมพิจารณาขั้นเงินเดือน 2 ขั้น เป็นกรณีพิเศษด้วย
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีโรงพยาบาลตำรวจ ร้องขอกำลังพลจากหน่วยต่างๆ มาช่วยทำหน้าที่พนักงานเปล หลังมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้มีกำลังไม่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ ว่า มีกำลังพลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จำนวน 30 คน สมัครใจมาช่วย ทำหน้าที่เหมือนจิตอาสา แบ่งเบาภาระ ทราบว่า อยู่ระหว่างอบรมขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้พร้อมทำงาน สำหรับตำรวจดังกล่าวที่มาทำงานตรงนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มีสวัสดิการให้ในลักษณะทำงานกลุ่มเสี่ยง จะรีบพิจารณาฉีดวัคซีน จะถือว่าท่านเป็นผู้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ มีจิตใจเข้มแข็ง เวลาพิจารณาขั้นประจำปีต่างๆ ก็อาจจะได้สิทธิเป็นกรณีพิเศษด้วย ถือว่าท่านสมัครใจมาช่วยงานที่มีความเสี่ยง ส่วนที่โรงพยาบาลตำรวจร้องขอกำลังไปทาง บช.ก. ด้วยนั้น เห็นว่าอยู่ระหว่างการปรับแผนรับผู้สมัครใจ มีแผนการเข้าเวรทำงาน เวรพัก และจัดหาสถานที่พักหลังเลิกงานให้แยกจากผู้อื่น เพื่อลดการแพร่เชื้อ
ส่วนกรณีก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า เป็นการบังคับกำลังพลให้มาทำหน้าที่พนักงานเปล พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนั้นผู้บังคับบัญชายังไม่ได้ทำความเข้าใจ อาจมีแค่บางคนที่ไม่เต็มใจ แต่เมื่อผู้บังคับบัญชามาพิจารณาอีกครั้ง จึงเน้นความสมัครใจน่าจะเหมาะสมกว่า และเป็นแนวทางที่ดี หากมองอีกแง่หนึ่ง เป็นโอกาสที่จะทำความดีในช่วงวิกฤติชาติ อะไรที่ช่วยกันได้ ก็จะเป็นความภูมิใจในภายหลัง
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้คำแนะนำว่า หากจิตอาสาที่มีทักษะจะมาช่วย รพ.ตำรวจ หรือศูนย์รับแจ้งเหตุ ก็ได้ ซึ่งจะมีการประชุมหารืออีกครั้ง สำหรับศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ที่จะไปช่วยสนับสนุนรับแจ้งเหตุผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรณีคู่สายหน่วยงานหลักเต็ม คาดว่า ผบ.ตร. จะแถลงความชัดเจนในวันที่ 27 เม.ย.นี้ เพื่อกำหนดขั้นตอน ว่าจะเริ่มสนับสนุนได้เมื่อใด
มีรายงานเพิ่มเติมจาก บช.น. ว่า สำหรับตำรวจที่อาสามาช่วยงานพลเปล จะได้รับสวัสดิการเพิ่มเติม คือ 1. จัดทำประกันโควิด ทุนประกัน 200,000 บาท 2. พิจารณาขั้นเงินเดือนประจำปี 2 ขั้น และ 3. เบี้ยเลี้ยงพิเศษ
