xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : โควิดรอบ 3 หนัก เจ็บนี้...อีกนาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ตอน โควิดรอบ 3 หนัก เจ็บนี้...อีกนาน



การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบสามจากคลัสเตอร์ทองหล่อ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูง เกินหลักพันมาติดต่อกัน และกระจายทั่วครบ 77 จังหวัด แสดงให้เห็นถึงความสาหัสว่า การระบาดระลอกนี้หนักหนาที่สุดนับตั้งแต่ประเทศไทยต้องเผชิญสถานการณ์โควิด-19

หนักกว่ารอบแรกตอนต้นปี 2563 หรือรอบสองตอนปลายปี 2563 แต่รัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็น ผอ.ศบค. ตัดสินใจเลือกที่จะไม่ล็อคดาวน์ ไม่เคอร์ฟิวส์

ต่างจากการระบาดรอบแรกตอนต้นปี 2563 ที่เพียงตัวเลขหลักร้อย ศบค.ก็ล็อคดาวน์ เคอร์ฟิวส์ ห้ามออกจากเคหะสถาน ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ให้อยู่บ้าน หนุดเชื้อ เพื่อชาติ

รอบนี้ ศบค. มีคำสั่งเพียงกำหนดพื้นที่สีแดง พื้นที่สีส้ม ปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ห้ามดื่มแอลกกอฮอล์ในร้านอาหาร กำหนดเวลาเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้า ขณะที่กิจกรรมอื่นๆ ยังทำได้เกือบจะปกติ

แน่นอนว่า หากมองในทฤษฎี ศบค.เลือกปิดสถานบันเทิงอย่างน้อย 14 วัน เพราะเห็นว่าเป็นแหล่งกระจายเชื้อตัวร้าย ที่นำมาสู่การกระบาดใหญ่รอบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น ถ้าหากไม่ปิดสถานที่อโคจร ก็คงโดนด่าสนั่นเมือง เพราะประชาชนโกรธแค้นพวกสถานบันเทิง ทำคนรวยติดเชื้อ แต่ซวยคนจน

แต่ในจังหวะนี้ หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การที่ ศบค.ตัดสินใจไม่ใช้ยาแรง ทั้งที่ทีมแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นำเสนอ เพื่อหวังจะชัตดาวน์โควิด-19 ในรอบนี้โดยเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสสังคมไม่เอาด้วย

กับอีกปัจจัยสำคัญนั่นคือ การล็อคดาวน์ หรือประกาศเคอร์ฟิวส์ จะนำมาซึ่งการหยุดชะงักของหลายๆ กิจการ กระทบกระเทือนลูกจ้าง แรงงาน หาเช้ากินค่ำ หากใช้ยาแรง รัฐบาลจะรับประกันรายได้ การจ้างงาน คนเหล่านี้อย่างไร มิพ้นต้องควักกระเป๋าแจกเงินตามสูตรถนัด

ต้องยอมรับว่า แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า ยังมีเงินเพียงพอที่จะเยียวยาประชาชน และสามารถกู้เงินมาใช้ได้ แต่เอาเข้าจริง รู้กันดีว่า ไม่ได้เหลือมากเหลือเฟือขนาดนั้น

หากย้อนกลับไปก่อนโควิด-19 จะระบาดหนักๆ ไม่กี่สัปดาห์ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังหารือกันเรื่องจัดเก็บภาษีไม่ตรงเป้าอยู่เลย ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นภาวะการเงินการคลังของประเทศอยู่เหมือนกันว่า ไม่ค่อยจะดี

ถ้ารัฐบาลมีเงินเหลือ ตอนนี้ ศบค.กดล็อคดาวน์ เคอร์ฟิวส์ ไปแล้ว เพื่อให้มันเจ็บแต่จบ ไม่แทงกั๊กออกมาตรการแบบกลัวคนด่าแบบนี้

รัฐบาลออกมาตรการคราวนี้ ปิดแค่สถานที่อโคจร ก็เพื่อจะได้เยียวยาเฉพาะกลุ่มเฉพาะจุดที่ได้รับผลกระทบ ไม่ต้องไปหว่านแหเหมือนครั้งก่อนๆ

เพราะมีข้อจำกัด ที่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ไม่ว่ากระแสสังคม หรือภาวะการเงินการคลังที่ยังต้องเก็บไว้ใช้จ่ายอย่างอื่น มาตรการที่ออกมามันจึงเข้มได้ที่สุดเท่านี้

และหากคิดให้ดี การระบาดรอบนี้มันก็สะท้อนให้เห็นว่า ที่ผ่านมารัฐบาลขับรถปล่อยมือ หลงระเริงไม่นึกว่าโควิดจะกลับมาเล่นงานซ้ำ เลยไม่ได้มีการเตรียมการเตรียมแผนเอาไว้ในกรณีระบาดหนักๆ เลย

เช่นเดียวกับการมาตรการช่วยเหลือเยียวยาที่ไม่ได้มีการคิดกันเอาไว้ล่วงหน้า ว่าถ้าเกิดมีการระบาดอีกรอบจะทำอย่างไร นอกจากการแจกเงินให้กับประชาชน

ที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งแต่จะทำการเปิดประเทศ เพื่อหวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว จนเหมือนประมาทเลินเล่อไปว่า มันไม่มีทางที่จะกลับมาระบาดอีกหนักอีกในประเทศไทย พอเกิดแพร่ระบาดอย่างหนักในรอบนี้ขึ้นมา เลยตั้งตัวไม่ทัน ไม่มีแผนรับมืออะไรเลย

อย่างที่ บิ๊กตู่ เองก็เคยออกอาการปลงๆ ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ประโยคนี้มันตีความในทางลบมากกว่าบวกเมื่อออกมาจากปากผู้นำ ที่ราวกับสารภาพว่า ทำอะไรไม่ได้ เหมือนปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม

ดังนั้น มาตรการที่ออกมาน่าจะเป็นมาตรการที่เข้มที่สุดเท่าที่พอจะทำได้แล้ว หลังจากนี้รัฐบาลก็คงทำได้แต่เพียงภาวนา ให้ตัวเลขมันลดลงโดยเร็ว กับเตรียมหามาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ

มันทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้ เพราะปัญหาที่คิดไม่ถึงคือ ประชาชนเองก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ตั้งการ์ดสูง ดูแลตัวเองมาตลอด แต่การระบาดของโควิด-19 ในสองระลอกล่าสุด เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลโดยตรง

ไม่ว่าจะเป็นการหละหลวม หรือการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ปล่อยให้มีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาตามชายแดน จน จ.สมุทรสาครต้องเป็นอัมพาต

และหนนี้ที่เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลยแหล่งอโคจร เปิดมั่วสุมกันยันสว่างจนกลายเป็นต้นตอใหญ่ มีนักการเมือง และ เจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตก เป็นพวกกระจายเชื้อโรคตัวร้ายเสียเอง

รัฐบาลเลยน้ำท่วมปากกันหมด รอบนี้ไม่มีใครกล้าออกมาตำหนิประชาชน เพราะรู้กันอยู่เต็มอกโควิด-19 ระบาดอีกครั้งเพราะอะไร มาจากใคร ขืนพล่ามไปจะกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอ ตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น