ผู้ต้องกักหายป่วยจากโควิด 82 ราย หลังรักษาตัวที่ รพ.สนามชั่วคราว ถูกนำกลับไปกักตัวที่ห้องกัก ตม.สวนพลู รอส่งกลับประเทศต้นทางตามกระบวนการ
วันนี้ (9 เม.ย.) นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) รพ.ตร. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 ร่วมตรวจดูขั้นตอนการเคลื่อนย้ายผู้ต้องกักที่รักษาตัว รพ.สนามชั่วคราว สตม.จนหายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 กว่า 80 ราย กลับไปกักตัวที่ห้องกักสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สวนพลู) เพื่อรอการส่งกลับประเทศต้นทางตามกระบวนการ
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า มาตรการดูแลผู้ต้องกักใน รพ.สนามชั่วคราวแห่งนี้ มีการจัดแบ่งผู้ต้องกักเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ผู้ต้องกักที่ตรวจหลังกักตัวครบ 14 วันเเล้วผลตรวจเป็นลบ และภูมิคุ้มกันขึ้น 2. ผู้ต้องกักที่ตรวจหลังกักตัวครบ 14 วันผลตรวจเป็นยังสรุปไม่ได้ แต่ภูมิคุ้มกันขึ้น โดยร พ.สนามชั่วคราว สตม.มีผู้ต้องกัก ทั้งหมด 200 คน มีผู้ต้องกักที่ได้รับการรักษาหายดีแล้วมี 82 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านการสวอป 3 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ต้องกักที่จะเคลื่อนย้ายทั้งหมดปลอดจาก เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยในการเคลื่อนย้ายผู้ต้องกักครั้งนี้ สตม.ได้ใช้รถบัส 2 คันเคลื่อนย้ายผู้ต้องกัก ไปยังห้องกักสวนพลู
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลโรงพยาบาลสนามชั่วคราว สตม.ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลผู้ต้องกักตลอด 24 ชั่วโมง และได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด จึงขอให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลสนามชั่วคราว มั่นใจได้ว่า จะไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกไปนอกพื้นที่โรงพยาบาลสนามชั่วคราวอย่างแน่นอน หากมีการย้ายหรือเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับการรักษา เจ้าหน้าที่จะบันทึกและแจ้งรายละเอียดเพื่อปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด
