“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ตอน ไล่บิ๊กตู่-โค่น 3 ป.วันแตกหัก 22 พ.ค. รัฐประหาร 7 ปี คสช.
สถานการณ์การเมืองรัฐบาลประยุทธ์ ในอนาคตอันใกล้นี้ นับว่าแหลมคมมาก หลังการปรับครม.รอบล่าสุดผ่านพ้นไป ภายใต้โรดแมฟที่เหลือเวลาการทำงานเต็มที่ตามรัฐธรรมนูญ ก็คือไม่ถึงสองปี เพราะอายุของสภาฯที่เชื่อมโยงกับอายุขัยของรัฐบาล ครบสองปีไปเมื่อ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นับจากวันเลือกตั้ง เมื่อ 24 มีนาคม 2562
ทำงานบริหารบ้านเมืองผ่านมาได้ครึ่งทาง หลายฝ่ายไม่ปักใจเชื่อว่า รัฐนาวาลุงตู่ จะอยู่ได้ครบเทอมสี่ปีหรือไม่ เพราะประเมินสถานการณ์ไปข้างหน้าต่อจากนี้ เห็นชัดว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังต้องเจอ บททดสอบหนักๆ อีกหลายยก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเมือง สถานการณ์ต่อจากนี้ พลเอกประยุทธ์กำลังถูกหลายกลุ่ม จ้องรุกประชิด ตีขนาบซ้าย-ขวา หวังเผด็จศึก จะน็อคบิ๊กตู่ไม่ให้อยู่ครบเทอมให้ได้
ปัญหาหนักอกพลเอกประยุทธ์ตอนนี้ ก็คือการรับมือกับการเมืองนอกรัฐสภา ที่มีการเริ่มก่อตัว รอก่อหวอด ปลุกกระแส ไล่บิ๊กตู่-ขับกลุ่มอำนาจ 3 ป. ลงจากอำนาจ
เป็นการเคลื่อนไหวที่พลเอกประยุทธ์และแกนนำรัฐบาล คีย์แมนพรรคพลังประชารัฐ จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากกลุ่มต่างๆ ที่เริ่มก่อหวอดเตรียมตัวเคลื่อนไหวการเมืองนอกรัฐสภา รวมตัวกันติด จนเป็นกระแส “เบื่อประยุทธ์ ไม่เอา 3 ป.”
ถ้าเกิดกระแสจุดติดขึ้นมา รัฐบาลและบิ๊กตู่ ก็อาจอยู่ลำบาก ดับฝันอยู่ครบเทอมสี่ปี
กลุ่มไล่รัฐบาลที่เปิดหน้าออกมา จัดทัพไว้แล้วพร้อมจะชุมนุมไล่ประยุทธ์ ตอนนี้มีกลุ่ม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. อดีตแกนนำเสื้อแดง แม้วันนี้ จตุพรและแบนด์ นปช. อาจไม่แข็งแรงเหมือนในอดีต แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีมวลชนของตัวเองจำนวนหนึ่ง
การที่ ตู่-จตุพร ประกาศภารกิจภายใต้แคมเปญ สามัคคีประชาชน เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทธ์ แต่ในเบื้องต้น ขอหารือทิศทางการเคลื่อนไหวกับแนวร่วมก่อนว่าจะทำกันอย่างไร ในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายนนี้ ที่นัดกันที่ อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม จากนั้นจะเริ่มกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวหลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์
กลุ่มจตุพร จึงเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ฝ่ายพลเอกประยุทธ์จะปรามาสไม่ได้ เพราะหากถึงเวลาจริงๆ กลุ่มจตุพร ติดเครื่องเอาจริง กับการเดินหน้าไล่นายกฯ ย่อมจะกลายเป็นม็อบแกร่งที่น่ากลัว เพราะจตุพรมีประสบการณ์ บวกกับความฮึด ที่หวังจะฟื้นชื่อตัวเองกลับมาในฐานะผู้นำมวลชนเสื้อแดง อีกทั้งจะมีคนจ้องล้ม3ป. เข้าเป็นลมใต้ปีกเข้ามาหนุนส่ง อีกมาก
เพราะต้องไม่ลืมว่า เกือบเจ็ดปีที่ พลเอกประยุทธ์อยู่ในอำนาจมายาวนาน ตั้งแต่หลังรัฐประหาร คสช. พ.ค. 57 แม้บิ๊กตู่ อาจไม่มีเรื่องมัวหมองปมทุจริต แต่ความผิดพลาดบกพร่องในการทำงานของคสช.และรัฐบาล ตลอดเจ็ดปีมีแน่และมีเยอะ ที่ก็ทำให้ มีคนจำนวนไม่น้อยไม่พอใจ
เห็นได้จากตอนม็อบสามนิ้วพีคๆ ช่วงแรกๆ กับข้อเรียกร้อง ให้พลเอกประยุทธ์ลาออก ก็มีคนเอาด้วยจำนวนไม่น้อย แต่พอม็อบสามนิ้ว เทน้ำหนักไปที่เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ คนไม่เอาบิ๊กตู่ แต่ไม่อยากจาบจ้วงเรื่องสถาบัน ก็ล่าถอยทันที
ดังนั้น กับธงที่ ตู่ จตุพร บอกไว้แล้วว่า จะเคลื่อนไหวแค่สองประเด็นคือ ไล่ประยุทธ์กับเรียกร้องให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจถูกจริตกับคนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่พอใจ พี่น้อง 3 ป. และอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง จนอาจเป็นกองเชียร์กลุ่มสามัคคีประชาชนของ จตุพร ก็ได้
สำหรับแนวร่วม สามัคคีประชาชน ของตู่ จตุพร แม้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีฝ่ายไหนบ้าง แต่จะพบว่า ระยะหลัง จตุพร นอกจากปักหลักเคลื่อนไหวแสดงความเห็นทางการเมืองอยู่ที่ทีวีเสื้อแดง แล้วก็ยังหันไปร่วมทำกิจกรรมการเมืองกับกลุ่ม สภาที่ 3 ที่เป็นกลุ่มขับเคลื่อนการเมืองนอกสภา
กลุ่มสภาที่3 ตั้งเวทีวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพลเอกประยุทธ์มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยหลักๆ ก็จะมี อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชน พฤษภาฯ 35 -พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย-ธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง เป็นตัวหลัก
ขณะเดียวกัน ทุกวันนี้ คู่ชกเดิมกับรัฐบาลคือม็อบเด็กนักศึกษา ม็อบสามนิ้ว แม้ว่าวันนี้จะแผ่วไปบ้าง แต่ก็ยังปักหลักเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ที่การนัดหมายบางครั้งแสดงให้เห็นว่า ยังมี มวลชน ที่หนุนหลังม็อบสามนิ้วจำนวนไม่น้อย
ตัวอย่างเช่นการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อ 24 มีนาคม ที่มีคนไปร่วมชุมนุมจำนวนหนึ่ง ซึ่งนับได้ว่ามากที่สุดของปีนี้ ได้แสดงให้เห็นว่า ม็อบสามนิ้ว แม้อาจแผ่ว แต่ยังพร้อมจะผงาดขึ้นมาได้เสมอ
จึงน่าสนใจ ว่าหากการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วหลังจากนี้ จะลดโทนเรื่องสถาบันกษัตริย์และเรื่องยกเลิก 112 แล้วมาเน้นเรื่อง การไล่รัฐบาลและแก้รัฐธรรมนูญ จัดชุมนุมเคลื่อนไหวคู่ขนาน ไปกับกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มจตุพร ภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกัน
คือ ไล่นายกฯ-โค่น 3 ป. ก็จะสร้างความหนักใจให้กับพลเอกประยุทธ์ในการรับมือแน่นอน
สัญญาณนี้เริ่มเห็นบ้างแล้ว ดูได้จากกรณี จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำม็อบสามนิ้ว ที่อยู่ระหว่างการถูกควบคุมตัว ได้แถลงต่อศาลอาญาเมื่อ 29 มีนาคมที่ผ่านมาว่า หากได้รับการปล่อยชั่วคราวจะไม่พูดกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อีก
หากม็อบสามนิ้วไม่แตะสถาบัน ฯ แต่พุ่งเป้าไปที่ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภา เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นประเด็นหลัก ก็อาจทำให้กลุ่มชนชั้นกลาง คนกรุงเทพฯ ที่ไม่ชอบรัฐบาลชุดนี้ คาดว่ามีจำนวนพอสมควร แต่ที่ผ่านมา ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเรื่องสถาบันฯ
สุดท้าย คนกลุ่มนี้ ก็อาจมาร่วมชุมนุม กับม็อบสามนิ้วด้วยก็ได้ ประเมินดูแล้ว จุดเดือดของการเคลื่อนไหวนอกรัฐสภา เพื่อกดดัน พลเอกประยุทธ์และพี่น้องสามป.ฉากไคลแมกซ์ จะไปอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะช่วงวันที่ 22 พ.ค. ที่เป็นวันครบรอบ 7 ปีของรัฐประหารคสช.
หากกลุ่มไล่รัฐบาลเลี้ยงกระแสไม่เอา บิ๊กตู่-โค่น 3 ป. ไปถึงช่วงนั้นได้ จนนัดชุมนุมใหญ่ 22 พ.ค. ก็เชื่อว่า เหตุการณ์อาจจะทะลักจุดเดือด