xs
xsm
sm
md
lg

ยธ.แจงจดหมาย “อานนท์” เขียนบนใบคำฟ้องที่มีติดตัว ไม่ใช่กระดาษเรือนจำ ส่วน “รุ้ง” ยังไม่อดอาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รองปลัด ยธ.เผยจดหมาย “อานนท์” โพสต์เฟซบุ๊กเป็นกระดาษใบคำฟ้อง เร่งตรวจสอบส่งให้บุคคลอื่นช่วงเวลาใด พร้อมเอาผิดผู้โพสต์ฐานทำให้องค์กรเสียหาย

วันนี้ (26 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายวัลลภ นาคบัว รองปลัด ยธ. พร้อมด้วยนายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการประมวลข้อเท็จจริงการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์

นายวัลลภเปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการประมวลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้ต้องขังคดีการเมือง ตรวจสอบประเด็นเรื่องจดหมายของนายอานนท์ นำภา ซึ่งมีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ภายในเรือนจำกรุงเทพมหานคร ในยามวิกาลและเกรงว่าจะได้รับอันตราย เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าจดหมายดังกล่าวมีหลายเส้นบรรทัดและเมื่อพลิกด้านหลังเป็นเอกสารคำร้องขอไต่สวนหรือที่เรียกกันว่าใบคำฟ้อง ซึ่งนายอานนท์จะมีติดตัวอยู่หรืออาจได้รับจากทนายที่ศาล ยืนยันว่าไม่ได้เป็นกระดาษของทางเรือนจำ อีกทั้งนายอานนท์ยังเป็นทนายความซึ่งอาจมีการพกพาเอกสารดังกล่าวเข้ามาตรวจสอบในการต่อสู้คดีได้ จึงคาดว่าจะขอมาตอนขึ้นศาลก่อนเขียนส่งให้บุคคลอื่นไปโพสต์ แต่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในวันที่ 29 มี.ค.นี้ ศาลนัดไต่สวนในคดีจดหมายดังกล่าว ทราบว่าการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วและจะมีคำสั่งในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

“ทั้งนี้ ส่วนจะเป็นบุคคลใดที่นำข้อมูลดังกล่าวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเนื่องจากเรื่องดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน กรมราชทัณฑ์ได้ไปแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด โดยพบว่ามีผู้ที่เข้าข่ายดังกล่าว 2 ราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้” นายวัลลภกล่าว


นายวัลลภกล่าวอีกว่า สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของราชทัณฑ์กับผู้ต้องขังคดีการเมือง 7 คน ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา จากช่วงเวลาไทม์ไลน์ของจดหมายมีความสอดคล้องกับการเข้าปฏิบัติหน้าที่ในเรือนจำ รวม 4 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เข้าเจรจาขอตรวจโควิด-19 โดยผู้ต้องขังคดีอื่น 9 คนให้ความร่วมมือ แต่ผู้ต้องขังการเมืองทั้งหมดปฏิเสธ จึงทำให้ต้องมีการแยกขังตามมาตรการ ส่วนชุดปฏิบัติการที่พกกระบองหรือนกหวีดเป็นตามขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ในการควบคุมดูแล และย้ายผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำร้ายร่างกายได้อยู่แล้ว

ด้านนายธวัชชัยเผยว่า การเยี่ยมญาติปกตินั้นสามารถเยี่ยมได้ทั่วประเทศ ยกเว้น 5 จังหวัดกลุ่มเสี่ยง คือ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และปทุมธานี ซึ่งจะต้องจองคิวล่วงหน้าเยี่ยมญาติผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ทั้งผู้ต้องขังคดีการเมืองหรือคดีอื่นๆ สามารถทำได้ เพื่อลดปัญหาเรื่องการถูกทำร้ายร่างกายและลดอาการเครียดของผู้ต้องขังเอง โดยเข้าพบเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนกรณีเพจ “ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน” โพสต์ว่า น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เตรียมอดอาหารเป็นเพื่อน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นั้นจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ปนัสยายังกินอาหารปกติ ไม่ได้อดอาหารแต่อย่างใด และทุกวันเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะคอยติดตามดูแลสุขภาพผู้ต้องขังทุกรายอยู่แล้ว

นายธวัชชัยเผยอีกว่า ส่วนการอดอาหารของนายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า แกนนำคณะราษฎรมูเตลู ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับแจ้งจากนายพรหมศรว่าต้องการอดอาหารแต่อย่างใด เป็นเพียงการงดอาหารมื้อเย็นซึ่งเจ้าตัวแจ้งว่าขณะอยู่ภายนอกเรือนจำก็งดอาหารมื้อเย็นอยู่แล้ว ส่วนอาหารมื้ออื่นๆ ยังคงรับประทานเป็นปกติ พร้อมรับประทานขนมและเครื่องดื่มที่ทางเรือนจำจัดเพิ่ม และญาติได้ทำการสั่งซื้อไว้ ด้านบาดแผลจากการประสบอุบัติเหตุก่อนเข้าเรือนจำได้ทำการรักษาจนหายดีแล้ว แต่ในอนาคตหากผู้ต้องขังรายดังกล่าวมีความสงค์จะอดหรือปฏิเสธที่จะรับประทานอาหาร ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมให้การดูแลตามขั้นตอนอยู่ตลอดเวลา เพราะถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขังที่สามารถกระทำได้ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยต้องไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น

“ในส่วนนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ยังปฏิเสธการรับประทานอาหาร แต่ยังดื่มเกลือแร่ นมและน้ำหวาน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้อยู่ในภาวะที่เป็นอันตราย พบว่ามีอาการอ่อนเพลีย จากการตรวจร่างกายพบว่าสัญญาณชีพยังปกติ”นายธวัชชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น