ศาลนัดฟังคำสั่ง ย้าย “โตโต้-ไผ่-ไมค์” จากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หรือไม่ 15 มี.ค.นี้ ทนายความข้องใจถ้าหวั่นไม่ปลอดภัย เกรงม็อบบุกไปชุมนุมหน้าเรือนจำ ก็ต้องแจ้งขออนุญาตศาล
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลไต่สวนกรณีทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นำตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร (จำเลยคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ป.อาญา ม.112) นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ แกนนำกลุ่ม Wevo (ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่), ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวถูกคุมขัง ย้ายจากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้ตรงกับหมายขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดี หลังจากเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ศาลได้ไต่สวนทั้งสามและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แต่ยังไม่เสร็จสิ้น
ในวันนี้ศาลจึงให้เบิกตัวนายปิยรัฐ, นายจตุภัทร์ และ นายภาณุพงศ์ จากเรือนจำพิเศษธนบุรีมาศาลอาญา เพื่อทำการไต่สวนต่อ โดยเมื่อเบิกตัวมาถึง ทั้งสามซึ่งถูกควบคุมตัวลงจากรถตู้เรือนจำเข้าห้องคุมขังใต้ศาล ได้ชูสามนิ้วทักทายผู้ที่เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง ขณะที่ในการไต่สวนมีญาติ ผู้ใกล้ชิด ทนายความ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางมาร่วมรับฟังการไต่สวน อย่างไรก็ตาม ศาลไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการไต่สวน
ภายหลังเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 15 มี.ค. นี้ เวลา 11.00 น. เรื่องนี้เกิดขึ้นจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2564 ที่มีการยื่นฟ้องแล้วศาลไม่ให้ประกัน ไผ่, ไมค์ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ได้พาทั้งสามคนไปคุมขัง โดยส่งรุ้งไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ถ.งามวงศ์วาน
หลังจากนั้น รถได้อ้อมพาไผ่และไมค์ไปที่เรือนจำพิเศษธนบุรี นี่เป็นคำบอกเล่าจากตัวจำเลย ซึ่งทนายความและญาติไม่มีใครทราบ จนมาทราบข่าวจากที่ผู้บัญชาการเรือนจำแถลงว่า เพื่อลดความแออัด จึงนำทั้งสองไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งตนมาดูหมายขังของศาล ระบุว่า ให้นำทั้งสองไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และตาม ป.วิ.อาญา ก็บัญญัติไว้ว่าให้ขังยังสถานที่ซึ่งศาลออกหมายขัง แต่สอบถามไปยังเรือนจำพิเศษธนบุรีก็ได้ความว่ามีการโอนย้ายไปคุมขัง เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา และตรวจสอบพบว่า ผู้บัญชาการเรือนจำเพิ่งทำหนังสือแจ้งศาลเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเราได้ยื่นไต่สวนคำร้องแล้ว เราก็ค้านไว้ว่าตามกฎหมายจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล
นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ราชทัณฑ์ได้อ้างในการไต่สวนว่า ถ้าหากมีเหตุจำเป็นสามารถย้ายผู้ถูกคุมขังได้ แล้วค่อยรายงานศาล หากเป็นเหตุด่วนให้ย้ายได้ ถ้าอ้างความปลอดภัย ก็แปลว่าเรือนจำพิเศษธนบุรีมีความปลอดภัยมากกว่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ใช่หรือไม่ ทั้งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเรือนจำชั้นหนึ่งแล้ว ตรงนี้เป็นเรื่องน่าสงสัยที่เราตั้งข้อสังเกต โดยวันที่ 15 มี.ค. นี้ ที่ศาลนัดฟังคำสั่ง ยังเป็นวันนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีแกนนำราษฎรชุมนุมวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 พนักงานอัยการได้ยื่นขอรวมสำนวนระหว่างจำเลยที่ถูกฟ้องชุดแรก คือ กลุ่มนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ กับพวกรวม 4 คน กับชุดราษฎร 18 คน ที่ฟ้องเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทนายความคงไม่คัดค้านการรวมสำนวน เพราะเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานชุดเดียวกัน ตรงนี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เมื่อพยานหลักฐานชุดเดียวกันต้องคุมขังไว้เรือนจำเดียวกัน เพื่อจะได้ปรึกษากันเวลาทนายความไปเยี่ยม จะได้เบิกตัวมาคุยเรื่องคดีด้วยกัน ส่วนที่ราชทัณฑ์อ้างเรื่องเพื่อความปลอดภัย ตนว่าฟังไม่ขึ้น ตรงนี้เป็นการละเมิดสิทธิ เราจึงมาร้องศาล
เมื่อถามถึงข้อสงสัยว่าราชทัณฑ์อาจจะเกรงเรื่องม็อบชุมนุมหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ราชทัณฑ์ก็ต้องมาขออนุญาตต่อศาลอาญา อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) จะมายื่นประกันตัวจำเลยกลุ่มราษฎรที่ไม่ได้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เดิมอีกครั้ง
สรุปข้อเท็จจริงและขั้นตอนการไต่สวน คำร้องขอย้ายการคุมขัง นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ ผู้ต้องหาที่ 1 (ชั้นสอบสวน) คดีชุมนุมกลุ่ม Wevo และนายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก จำเลยที่ 2, นายจตุภัทร์ หรือไผ่ดาวดิน บุญภัทรรักษา จำเลยที่ 3 (ชั้นพิจารณา) คดีชุมนุมคณะราษฎร 2563 จากเรือนจำพิเศษธนบุรี มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
โดยศาลอาญา มีคำสั่งเบิกตัวผู้ต้องหาและจำเลยทั้ง 3 คน มาไต่สวนในวันนี้ (11 มี.ค.) เวลา 09.00น. ซึ่งก่อนเริ่มพิจารณาศาลขอความร่วมมือบุคคลที่อยู่ภายในพิจารณา อย่าได้โพสต์ หรือถ่ายภาพ หรือบันทึกเสียงในห้องพิจารณา ซึ่งอาจกระทบกระเทือนในการพิจารณาคดีและเรื่องความปลอดภัยได้
สำหรับการไต่สวนคำร้องนี้ สืบเนื่องจากทนายความ ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ทำนองว่า ผู้ต้องหาและจำเลยทั้ง 3 คน ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ไม่ได้ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามหมายศาล (หมายขัง) ทำให้ว่า ผู้ต้องหาและจำเลยทั้ง 3 คน ไม่สามารถปรึกษาคดีได้สะดวก กระทบสิทธิการต่อสู้คดีและญาติในการติดต่อเข้าเยี่ยมหรือสั่งซื้อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น อีกทั้งไม่สะดวกในการเบิกตัวมาศาลเพราะระยะทางไกล
มีรายงานว่าสำหรับการไต่สวนในวันนี้ศาลอาญาดำเนินการพิจารณา 4 ปาก คือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตัวผู้ต้องหา 1 คน และจำเลย 2 คน จนเสร็จสิ้น ศาลอาญาจึงกำหนดนัดฟังคำสั่งในวันจันทร์ที่ 15 มี.ค.64 เวลา 11.00 น. โดยให้เบิกตัวผู้ต้องหาและจำเลยทั้ง 3 คนมาศาลในวันนัด