xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : วันพิพากษาแก้ รธน.ม็อบ 3 นิ้วรอขยี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ตอน วันพิพากษาแก้ รธน.ม็อบ 3 นิ้วรอขยี้



วันพฤหัสบดี 11 มีนาคม คือวันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งเก้าคน ได้นัดประชุมกันตั้งแต่ เก้าโมง เพื่อร่วมประชุมและลงมติชี้ชะตาให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ที่ขณะนี้รัฐสภาดำเนินการไปแล้ว ทั้งวาระแรกรับหลักการและวาระสอง เห็นชอบร่างแก้ไขรายมาตรา ยังก็เหลือจะลงมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบวาระ3กันในการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ 17 มีนาคม นี้

สุดท้ายแล้ว ที่รัฐสภาดำเนินการมาทั้งหมดเกินเวลาร่วม 5 เดือน กระบวนการทั้งหมดจะได้เดินต่อ หรือจะต้องล้มกระดาน ไม่สามารถแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้มีการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ทำได้แค่แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา

ข้อถกเถียงเรื่องตั้งส. ส. ร. จะได้ข้อยุติกันแล้ว กับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ พฤหัสบดีนี้ 11 มีนาคม

ทั้งนี้คำร้องต้นเรื่องดังกล่าว ที่เกิดจาก ส.ส.และสว.เข้าชื่อกันเสนอญัตติผ่านที่ประชุมร่วมรัฐสภาส่งมายังศาลรัฐธรรมนูญ สาระสำคัญคือการถามและให้ศาลวินิจฉัยว่า

รัฐสภาไม่มีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีแค่เพียงอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตราเท่านั้นใช่หรือไม่?

ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ต้องตัดสินตามแนวทางนี้ ด้วยเหตุนี้รูปคดีของคำร้องคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงออกได้สองทาง คือ

หนึ่ง ,ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินออกมาว่ารัฐสภามีอำนาจในการ แก้ไข มาตรา 256 เพื่อให้มีส.ส.ร. มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

หากผลออกมาแบบนี้ ก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวให้ รัฐสภาเดินหน้า แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ต่อไปได้

แนวทางที่สอง คือ ศาลวินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่มีอำนาจในการแก้ 256 เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ทำได้แค่แก้ไขเพิ่มเติมรายมาตราเท่านั้น

ก็คือ คำวินิจฉัยล้มกระดานการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเวลานี้นั่นเอง และนั่นย่อมทำให้ หากจะมีการแก้ไขรธน.ฉบับปัจจุบัน ก็ทำได้เพียงแค่การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเท่านั้น ไม่สามารถแก้ 256 เพื่อเปิดประตูไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้

ทิศทางคำตัดสินที่จะออกมาพฤหัสบดีนี้ มีการมองกันหลายมิติ เช่น หลายรายมองว่า แม้ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยเมื่อปี 2555 ที่ล้มกระดานการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่พรรคเพื่อไทยที่จับมือกับสว.เวลานั้นแก้ 291 เพื่อจะตั้งส.ส.ร.

โดยคำวินิจฉัยดังกล่าว เมื่อปี 2555 มีการมองกันว่า อาจถูกยกมาเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคดีวันที่ 11 พ.ค.นี้

เนื่องจาก มาตรา 256 กับมาตรา 291 มีการเขียนถ้อยคำคล้ายๆกัน ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องยึดแนวทางเดิม

ทว่าต้องไม่ลืมว่า ตอนตัดสินปี 2555 เป็นการตัดสินตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่ปัจจุบันใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 แม้เนื้อหาบางส่วนอาจคล้ายกัน แต่เจตนารมณ์ในการร่างอาจแตกต่างกัน

อีกทั้ง ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ในมาตรา 256 (8) ก็มีการเขียนล็อกไว้แล้วว่า หากมีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 หลังรัฐสภาให้ความเห็นชอบวาระสามแล้ว ก่อนนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติตามกฎหมาย

ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ถ้าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วยถึงค่อยนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ

จึงเท่ากับว่า หลังรัฐสภาผ่านวาระสาม ยังไง ก็ต้องมีการนำร่างแก้ไข มาตรา 256 ไปทำประชามติอยู่ดี

หากประชามติผ่าน ถึงค่อยไปขั้นตอนต่างๆ เช่นประกาศใช้ และให้มีการเลือกตั้งส.ส.ร.ทั่วประเทศ 200 คน แต่หากประชามติไม่ผ่าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทำมาทั้งหมด ก็แท้งอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้ นักกฎหมายหลายคนจึงมองว่ามีโอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไฟเขียวให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เดินหน้าต่อไปได้เช่นกัน ไม่เสี่ยงถูกล้มกระดาน เพราะศาลคงเห็นว่า ยังไง ถึงผ่านรัฐสภาวาระ3 ก็ต้องมีการส่งไปทำประชามติก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ อยู่ดี

ขณะที่หลายคน มองข้ามช็อตไปแล้วก็คือ ถึงหากฝ่าด่าน ศาลรัฐธรรมนูญไปได้ 11มี.ค.นี้ ก็ยังมีด่าน โหวตวาระ3 ที่ต้องได้เสียงสว.เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1ใน 3 หรือไม่น้อยกว่า 84 เสียง

หลังมีกระแสข่าว สว.หลายคนเริ่มเดินสายเตรียมล็อบบี้คว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระสามแล้ว ไม่ยอมให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านไปได้ง่ายๆ

ที่ต้องจับตาก็คือ หากสุดท้าย การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยเป็นข้อเรียกร้องหลักของม็อบสามนิ้ว และมีคนเห็นด้วยกับประเด็นนี้มากที่สุด เป็นข้อเรียกร้องที่ทรงพลังที่สุด ไม่ใช่เรื่องไล่บิ๊กตู่หรือปฏิรูปสถาบันฯ

ดังนั้น หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องสะดุดลง ไม่ว่าจะในชั้น ศาลรัฐธรรมนูญ หรือโดนสกัดเพราะถูกสภาสูงจับมือกันคว่ำ โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญและสว. ไม่มีเหตุผลที่เพียงพอในการอธิบายกับประชาชน

หากว่า สถานการณ์ไปถึงจุดนั้น เรื่องล้มกระดานการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็อาจเป็น ชนวนการเมืองรอบใหม่ ที่ช่วยจุดกระแสม็อบที่กำลังดิ่งเหว ให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้งก็ได้

เหมือนกับเป็นการเติมฟืนเข้ากองไฟรอบใหม่ ปลุกม็อบสามนิ้ว ให้กลับมามีความชอบธรรมอีกครั้งในการเคลื่อนไหวที่จะมีหลังจากนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น