ถอนหมุดข่าว
ปฏิบัติการล่าชื่อของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กว่า 90 คน เพื่อมอบอำนาจให้ "หลวงพ่อป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ถือสิทธิ์ในการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง และเมื่อเลือกใครแล้วให้ถือเป็นเด็ดขาด
การที่ ส.ส.พลังประชารัฐ แทบทุกกลุ่มร่วมลงชื่อเช่นนี้ นอกจากส่งสัญญาณถึง "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่ามายุ่ง หรือดึง “คนนอก” มาคว้าพุงปลามากินเบียด “คนใน” ฟาดตำแหน่งรัฐมนตรีไปเชยชมอีก
เป็นที่รับรู้กันดีภายในพรรคพลังประชารัฐ ส.ส.จำนวนไม่น้อย มีความไม่พอใจที่เก้าอี้สำคัญๆ ถูกดึงไปเป็นโควต้ากลางของ "บิ๊กตู่" แทบทั้งหมด ตั้งแต่กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลัง เป็นต้น
ซ้ำร้ายยุคนี้ 3 กระทรวงเกรดเอที่ว่าถูกตัดขาดเว้นระยะห่างแทบจะสิ้นเชิงจากพรรค ผู้แทนฯน้อยใหญ่ฝากผีฝากไข้อะไรไม่ได้เลย
ต่างจากระบบการเมืองปกติที่แต่ละกระทรวงหลักต้องเป็นหลักในการดูแล ส.ส.ผลักดันโครงการลงพื้นที่ เพื่อความสะดวกในการตรึงฐานเสียงไว้
เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหา ถ้าเจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวงมีประสบการณ์เป็น ส.ส.มาก่อน ก็จะเข้าใจหัวจิตหัวใจของ ส.ส. ตอบสนองความต้องการของ ส.ส.ทำพื้นที่ จัดสรรโครงการให้ชาวบ้านเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้รัฐบาล
แต่ความเป็นจริง กระทรวงมหาดไทย ยุคนี้ ที่เป็นกลไกการเมืองที่สำคัญสำหรับการขยายฐาน เนื่องจากคุมกลไกรัฐ มีหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดประชาชนถึงระดับล่าง
ฝ่ายการเมืองจึงหมายปอง พยายามเข้ามาคุมอำนาจใน กระทรวงมหาดไทย เพื่อหวังผลทางการเมือง จนเรียกว่าเป็นสูตรสำเร็จ แต่บริบทในยุคปัจจุบัน มท.1 ที่ชื่อ"บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่อยู่โยงในตำแหน่งมาร่วม 7 ปี
พล.อ.อนุพงษ์ ดูจะทำงานเป็นเอกเทศ ไม่เห็นนักการเมืองอยู่ในสายตา เมื่อใดที่ ส.ส.พลังประชารัฐ ร้องขออะไรบางอย่างไปที่กระทรวงมหาดไทย ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง หรือตอบสนองอย่างล่าช้าตลอด
ชั่วโมงนี้ยามที่ดูเหมือนเกมเก้าอี้ปรับคณะรัฐมนตรี ด้วยเก้าอี้มีจำกัด แต่คนต่อแถวเสนอตัวเป็นรัฐมนตรีมีมากกว่า บวกกับความต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรงมหาดไทย
ก็เลยมีสูตรปรับเก้าอี้คณะรัฐมนตรีโดยโยกเอา "บิ๊กป๊อก" ออกจากสมการการเมือง หลังจากนักการเมืองและพรรคพลังประชารัฐยอมเป็นนั่งร้านให้อยู่นาน
เสียงเชียร์คนในพรรคพลังประชารัฐ อยากให้ "ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร" เขยิบมานั่งเป็น “มท.1” รมว.มหาดไทย จะตอบโจทย์งานการเมืองอย่างที่สุด
และหากเป็นตามสูตรเดิมกับการปรับครม. เมื่อกลางปีที่แล้ว จะได้ทหารเอกคู่ใจอย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมช.มหาดไทย เจ้าของรหัส "มท.2"
ก็เรียกว่าลงล็อก คนในพรรคได้เฮ โดยเฉพาะภารกิจสำคัญในการวางฐานการเมืองเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ตัว พล.อ.ประวิตร เอง เคยเบิ้ลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาสองสมัย เป็นรองนายกก็สองรอบ แต่ในรัฐบาลเลือกตั้ง งานการก็ได้หยิบจับน้อยลง จากรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง มาเป็นรองนายกฯขาลอย ดูแลงานหยุมหยิม แค่เรื่องน้ำ ที่ดิน อวกาศ
ไม่สมกับฐานะ “พี่ใหญ่” แม้แต่น้อย
ส่วนกระทรวงมหาดไทยที่ถือเป็นศูนย์รวมอำนาจ คุมด้านการปกครอง และความมั่นคง ลุงป้อม ผู้มากบารมียังไม่เคยมาเปิดบริสุทธิ์เลย สักหน
สมัยนี้แม้จะเป็นที่ทราบกันว่า กระทรวงมหาดไทยถือเป็นกระทรวงที่แตะต้องไม่ได้ เพราะเป็นของ “พี่คนรอง” อย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แต่ถ้า “บิ๊กบราเทอร์ส” อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะขยับมานั่ง สักที อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น.