“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ตอน สมคบคิดแก้ ม.112 "3 นิ้ว-ก้าวไกล" รวมกันตี
การเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่บริเวณหน้าสน.ปทุมวันและบริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง ที่เกิดการเผชิญหน้ากันขึ้นระหว่างฝ่ายผู้ชุมนุมกับตำรวจทั้งสองจุด
จุดหนึ่งที่เห็นชัดก็คือ การเคลื่อนไหวดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกับเรื่อง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ถึงตอนนี้ เห็นได้ชัดว่า ม็อบสามนิ้ว จากเดิมที่เคยเคลื่อนไหวเรียกร้องในสามประเด็นหลักคือ หนึ่ง เรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก ,สอง เรียกร้องให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ,และ สาม เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
มาบัดนี้ ข้อเรียกร้องผ่านการนัดชุมนุมและการเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดีย ในเครือข่ายม็อบสามนิ้ว เทน้ำหนักมาที่เรื่อง การแก้ไขมาตรา 112 เป็นหลัก
ยิ่งเมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา สี่แกนนำแนวร่วมม็อบสามนิ้ว อาทิ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, อานนท์ นำภา ถูกคุมขังไม่ได้รับการประกันตัว หลังตกเป็นจำเลยในคดี หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112
รวมถึงคดีอื่นๆ เช่น ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จนทำให้มีการเคลื่อนไหวรวมตัวกันของม็อบสามนิ้วที่หน้าสน.ปทุมวันและหน้าศาลฎีกา สนามหลวง จนเกิดเหตุเผชิญหน้าทั้งสองจุด
มันคือสัญญาณการเมืองที่บ่งบอกได้แล้วว่า เมื่อสถานการณ์ต่างๆนิ่งแล้ว กลุ่มม็อบสามนิ้ว เตรียมทัพรอขยับใหญ่ เพื่อรุกคืบเรื่องมาตรา 112
จุดใหญ่เลย ต้องไม่ลืมว่า เวลานี้ หัวเชื้อการแก้
มาตรา 112 ได้ถูกกรุยทาง เข้าไปอยู่ในสภาฯ แล้ว หลังพรรคก้าวไกล ได้เสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติเกี่ยวกับกรณีคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของประชาชน จำนวน 5 ฉบับต่อประธานสภาฯไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นกัน
โดย 1 ใน 5 ฉบับดังกล่าว คือ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ที่มีการเสนอแก้ไข เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของ มาตรา 112 ในปัจจุบันหลายประเด็น
เช่นเรื่อง แยกการดำเนินคดีและการลงโทษ ผู้หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แยกออกมาเป็นบทบัญญัติต่างหาก จากผู้กระทำความผิดลักษณะเดียวกัน กับ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากปัจจุบันที่มาตรา 112 บัญญัติให้อยู่ด้วยกัน
อีกทั้งเสนอลดโทษผู้กระทำความผิดให้น้อยลงไปจากเดิมมาก เช่น จากปัจจุบัน คนที่ถูกศาลตัดสินว่าทำผิดมาตรา 112 จะต้อง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ในร่างที่ พรรคก้าวไกล เสนอไป ขอแก้เป็น หากกระทำความผิดต่อ พระมหากษัตริย์ ให้จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เรียกว่าเสนอให้ลดโทษลงเกินกึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ยังเสนอแก้ไขส่วนสำคัญด้วย คือ ให้ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ที่เห็นว่าทำผิดมาตรา 112 จากปัจจุบันที่เปิดกว้าง ใครก็ร้องทุกข์ต่อตำรวจได้ ก็เสนอแก้เป็นให้ทำได้แค่หน่วยงานเดียวเท่านั้นคือ สำนักพระราชวัง อันเป็นองค์กรนิติบุคคลที่มีความใกล้ชิดและเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันฯ ซึ่งแนวทางเหล่านี้ ต่อไปคงจะถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง
การเคลื่อนไหวของ พรรคก้าวไกลในเรื่องล่อแหลมนี้ บอกได้เลยว่า จะส่งผลให้ การเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว มีจังหวะการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากขึ้น จากเดิมที่เคลื่อนไหวให้เลิก 112 แบบ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม นัดชุมนุม ปราศรัย เขียนป้าย แล้วก็ยุติการชุมนุม
แต่หลังจากนี้ อาจไม่ใช่แล้ว หลังจากที่พรรคก้าวไกล ได้นำหัวเชื้อ แก้ มาตรา112 เอามาไว้ที่สภาฯ แล้ว ตามช่องทางของ รัฐธรรมนูญ มาตรา 133 ที่บัญญัติว่า การเสนอร่างพรบ. ฯ ต่อสภาฯ ให้ใช้เสียงส.ส. ไม่น้อยกว่ายี่สิบคน
โดยพบว่ามีส.ส.ก้าวไกลร่วมลงชื่อด้วย 44คนถือว่าทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้ว หลังจากนี้ ก็เหลือแค่รอบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณาของสภาฯ ในวาระแรกขั้นรับหลักการเท่านั้น
เมื่อมาทรงนี้ ฟันธงไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า ด้วยท่าทีอันชัดเจนของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่มีเสียงส.ส.มากกว่าฝ่ายค้านหลายสิบเสียงและทั้งหมด ไม่มีใครเอาด้วยกับเรื่องแก้ มาตรา 112 หรือแม้แต่กับพรรคเพื่อไทย ก็คงไม่เอาด้วยทั้งหมด กับพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้กฎหมายไปห้าฉบับ
โดยเฉพาะเรื่อง แก้ มาตรา 112 ที่เพื่อไทย คงขอชิ่งออกมา ไม่เล่นด้วย ทำให้ยากมากที่การเสนอแก้ มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลจะสำเร็จได้ เอาแค่จะให้ผ่านสภาฯ วาระแรก แทบไม่มีความเป็นไปได้เลย
แต่ที่พรรคก้าวไกล เคลื่อนไหวเรื่องนี้ ทั้งที่แกนนำพรรคและส.ส.ทุกคนของพรรคก้าวไกล รู้ดีว่า เสนอไปก็เท่านั้น โอกาสทำสำเร็จในกระบวนการของรัฐสภาถูกล็อกสนิทปิดตาย แต่ที่ต้องขยับ ก็เพราะ
พรรคก้าวไกล หวังให้มีการนำเรื่องมาตรา 112 ได้เข้าไปอภิปราย พูดกันในสภาฯ หลายชั่วโมง มีการถ่ายทอดเสียงการประชุมให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ เพียงเท่านี้ พรรคก้าวไกล ก็ได้คะแนนจากกลุ่มคนที่เป็นแนวร่วมเสื้อแดง แนวร่วมกลุ่มม็อบสามนิ้วไปเต็มๆ
การเสนอแก้มาตรา 112 ในสภาฯ จึงเป็นการขยับหมาก แบบมีจังหวะ สอดรับ กันเป็นอย่างดี ของพรรคก้าวไกล และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล และ ม็อบสามนิ้ว ที่จะได้นำเรื่องนี้ไปเคลื่อนไหว บนท้องถนนต่อไปแบบเป็นรูปธรรมากขึ้น
คาดว่า เรื่องการเสนอแก้มาตรา 112จะเริ่มมีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ทั้งในและนอกสภาฯ ในช่วงเปิดประชุมสภาฯสมัยหน้า และถึงตอนนั้น เรื่องมาตรา 112 เสี่ยงจะเป็นประเด็นที่จุดชนวนความขัดแย้งรอบใหม่ในสังคมไทย โดยเฉพาะการปะทะทางความคิดของคนสองรุ่น ที่มองเรื่องมาตรา 112ของประมวลกฎหมายอาญา แตกต่างกัน