“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ตอน คดีอาญาไล่ล่า ธนาธร พ่วงตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ
คดีความที่เป็นรายการเช็คบิลกับนายธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ. ประธานคณะก้าวหน้า อดีตผู้ก่อตั้ฃและหัวพรรคอนาคตใหม่ กำลังไล่ล่าประดังเข้ามาใส่เขาและครอบครัวหลายคดี โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ มีคดีที่ธราธรจะโดนหนักๆเจอจังๆ ทั้งนั้น
เริ่มจากเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย อดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือบก.ปทส. เพื่อแจ้งความเพิ่มเติมกับ คนในตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจ สามแม่ลูกแบบยกครัว
ไล่ตั้งแต่ นางสมพร จึงรุ่งเรื่องกิจ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท มารดา ธนาธร น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท พี่สาว ธนาธร
และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ในรอบนี้ ธนาธร สมพร และชนาพรรณ โดนข้อหาคดี ใช้เอกสารที่ออกโดยมิชอบครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี จ.ราชบุรี ร่วม 2,154 ไร่
จากพยานหลักฐานที่กรมป่าไม้เอาไปให้ตำรวจ แสดงให้เห็นว่า กรมป่าไม้ มั่นใจว่าจะเช็คบิล ตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจได้
ก่อนหน้านี้ กรมป่าไม้เคยมาร้องร้องทุกข์กับบก.ปทส. ไว้แล้วรอบหนึ่งเมื่อ 30 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา มารอบล่าสุด อธิบดีกรมป่าไม้ ระบุว่า ตรวจสอบเพิ่มเติมจากเมื่อ ธันวาคมปีที่แล้ว พบยังมีการได้เอกสารสิทธิที่ดินประเภท นส.3 ก ที่เป็นเอกสารที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกจำนวนมากของทั้งสามคน
ผิดอีกไม่น้อยกว่า 60 ฉบับ รวมเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ และพบมีใช้ประโยชน์โดยปลูกยูคาลิปตัสต่อเนื่องทั้งพื้นที่ โดยเฉพาะของ นางสมพร มีมากถึง 53 ฉบับ เนื้อที่ร่วม 1,940 ไร่ รวมถึงพบเอกสาร 60 ฉบับ ออกโดยไม่มีหลักฐานเดิมหรือส.ค.1 จึงเป็นเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อธิบดีกรมป่าไม้ระบุชัดว่า งานนี้มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งเจ้าพนักงานที่ดินและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย จึงมีการแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ - พ.ร.บ.ป่าไม้- ประมวลกฎหมายที่ดิน-ประมวลกฎหมายอาญา กับทั้งนางสมพร น.ส.ชนาพรรณ และ ธนาธร และเจ้าหน้าที่รัฐอีก 5 คน รวมทั้งฟ้องแพ่งร่วม 147 ล้านบาท
เส้นทางคดีนี้ ยังอีกยาวไกล สามแม่ลูก จึงรุ่งเรืองกิจ มีสิทธิ์สู่คดีไปจนจบสามศาล สำหรับธนาธรทำให้มีชนักติดหลัง คดีอาญา เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคดี เพียงแต่ ไม่ใช่ ธนาธรคนเดียว แต่มีเดิมพันถึงคนร่วมสายโลหิตเดียวกัน
ขณะที่ตัว ธนาธร เอง ถึงตอนนี้ มีชนักติดหลังคดีอาญา อีกหลายเรื่อง ที่จ่อคอหอยตอนนี้ ก็คือ คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เอาผิดกรณีถือหุ้นสื่อบริษัทวีลัค มีเดีย ก่อนลงเลือกตั้ง
ซึ่งสำนวนคดีเดินเรื่องจากกกต.และตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ไปถึงมืออัยการแล้ว โดยอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญานัดฟังคำสั่งคดีวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ ว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้องธนาธร ต่อศาลอาญา ตามความผิดพรบ.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 หรือไม่
หากยื่นฟ้องแล้วศาลรับฟ้อง จะเป็นคดีอาญาคดีแรกของ ธนาธร โดยโทษความผิดตามมาตรา 151 คือจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น - 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งมีกำหนด 20 ปี
นอกจากนี้ก็ยังมีคดี ที่กกต. มีมติให้เอาผิดคดีอาญากับ ธนาธร และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 ราย กรณีเงินกู้ 191 ล้านบาท ที่เป็นเหตุให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งคดีอยู่ระหว่าง การเตรียมส่งสำนวนจากกกต.ไปยังตำรวจ
รวมถึงล่าสุดคดีร้อนๆ ที่ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่งตัวแทนแจ้งความดำเนินคดี ธนาธร ฐานทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณี ธนาธร ไลฟ์สด เรื่องวัคซีนพระราชทาน
ส่วนคนในครอบครัว ไม่ใช่แค่ นางสมพร-ชนาพรรณ เท่านั้น ที่ปัญหาคดีความกำลังรุกไล่ น้องชาย ธนาธร คือ สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยซัมมิท ที่ถูกกองปราบปรามสอบสวนคดีสินบนเช่าที่ดินสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
ก็อาการโคม่าเช่นกัน เพราะมีข่าว ตำรวจพบหลักฐานการสั่งจ่ายเช็กเงินสดให้กับอดีตจำเลยคดีดังกล่าว ที่ถูกศาลสั่งจำคุกไปก่อนหน้านี้
นับแต่เริ่มเปิดตัวเข้าสู่การเล่นการเมืองอย่างเป็นทางการครั้งแรก ตอนเปิดตัวตั้งพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ 15 มีนาคม 2561 วันนั้น ที่ ธนาธร ประกาศ ทิ้งเก้าอี้ รองประธานบริหารเครือบริษัทไทยซัมมิท ที่มีมูลค่าทางธุรกิจหลายหมื่นล้านบาท เพื่อเข้าสู่ถนนการเมืองอย่างเต็มตัว
และธนาธร คงคิดไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า การเข้าสู่การเมือง เขามีราคาที่ต้องจ่าย เมื่อมาเล่นการเมือง ทำพรรคอนาคตใหม่ แต่คงไม่นึกไม่ฝันว่า ราคาที่ต้องจ่าย จะสาหัสสากรรจ์ กระทบกับชีวิตส่วนตัว และคนในครอบครัวขนาดนี้