“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 ตอน เจ๊ตู่-นันทิดา ได้ไปต่อ ลุ้น 47 อบจ.เลือกตั้งใหม่
คำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ลงคะแนนใหม่ในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) โดยสั่งให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว จำนวน 18 จังหวัด
มี จ. นนทบุรี ,สุพรรณบุรี, สมุทรปราการ ,อ่างทอง ,พังงา ,ชุมพร ,นราธิวาส ,นครศรีธรรมราช ,ลพบุรี ,นครสวรรค์ ,สระแก้ว ,ระยอง ,กาฬสินธุ์ ,นครพนม ,ยโสธร ,อุตรดิตถ์ ,อุดรธานี และอุบลราชธานี
โดย กกต.ได้กำหนดให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ ห้ามมีการหาเสียง เพราะพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 64 (5) บัญญัติเอาไว้ว่า “กรณีมีการสั่งให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ ผู้ใดจะหาเสียงเลือกตั้งมิได้ เว้นแต่ กกต. จะมีมติเป็นอย่างอื่นโดยคำนึงถึงความสุจริตและเที่ยงธรรม”
การออกคำสั่งให้ลงคะแนนใหม่ ไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม ที่จะต้องมีการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งใหม่ แต่ครั้งนี้ผู้สมัครเดิมทุกคนยังอยู่ครบ ไม่ได้มีคนถูกตัดสิทธิ์ หรือโดนใบเหลือง ใบส้ม ใบแดงอะไร
ผลการเลือกตั้งอบจ. ที่ผ่านมาเมื่อวันที่20 ธันวาคม ปีที่แล้ว มีหลายคนที่อยู่กับฝ่ายรัฐบาลแล้วพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งนายก อบจ.จึงอยากจะล้างตาแก้มือ แต่หวังจากการลงคะแนนใหม่ครั้งนี้ไม่ได้
เพราะบางจังหวัด ลงคะแนนใหม่เฉพาะสมาชิก อบจ. ไม่ใช่ นายก อบจ. อย่าง จ.นนทบุรี ที่มี ฉลอง เรี่ยวแรง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐลงแข่งขันชิงเก้าอี้นายก อบจ. แต่แพ้ราบคาบนั้น
แม้จะมีการลงคะแนนใหม่ถึง 9 หน่วย แต่ลงคะแนนใหม่เฉพาะสมาชิก อบจ.เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับนายก อบจ. ดังนั้น จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอยู่ดี
ขณะที่ จังหวัดที่ต้องมีการลงคะแนนใหม่ในส่วนของ นายกอบจ.นั้น ส่วนใหญ่คนชนะในครั้งที่ผ่านมามีเสียงค่อนข้างขาด ต่อให้ลงคะแนนใหม่ก็ไม่ทำให้ผลการเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลงได้ อย่างเช่นที่ จ.สมุทรปราการ
ที่ “เจ๊ตู่” นันทิดา แก้วบัวสาย ภรรยา ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม แกนนำกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ชนะคู่แข่งที่ได้อันดับสองร่วมๆ แสนกว่า ซึ่งที่ จ.สมุทรปราการ มีการลงคะแนนใหม่เพียง 3 เขต ดังนั้น ต่อให้ “เจ๊ตู่ นันทิดา” แพ้ทั้งหมด ก็ยังได้นั่งนายก อบจ.สมุทรปราการอยู่ดี ไปตัดชุดสีกากีรอนั่งเก้าอี้ได้เลย
ขณะที่จังหวัดที่มีการลงคะแนนใหม่ ถึง 8 หน่วยเลือกตั้งอย่าง จ.สระแก้ว แต่ถ้ามีการแยกย่อยออกมา จะพบว่า มีการลงคะแนนใหม่ในส่วนของสมาชิก อบจ.ถึง 7 หน่วยเลือกตั้งคือ การลงคะแนนใหม่ในส่วนของนายก อบจ.สระแก้ว เพียง 1 หน่วยเลือกตั้งเท่านั้น
ซึ่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมา “ขวัญเรือน เทียนทอง” ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ เสนาะ เทียนทอง และมารดาของ ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ 2 คน คือ ตรีนุช เทียนทอง แลฐานิสร์ เทียนทอง ได้ถึง 173,914 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง กฤษณ สุนทรพาณิชย์ ที่ได้ไปเพียงคะแนน 45,714 คะแนน หรือ เกือบ 4 เท่าตัว
ดังนั้น การลงคะแนนใหม่ในส่วนนายก อบจ.เพียงหน่วยเลือกตั้งเดียว จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร
ไม่ต่างอะไรกับ จ.ชุมพร ที่ต้องลงคะแนนในส่วนของสมาชิก อบจ. และนายก อบจ. 3 หน่วยเลือกตั้ง แต่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา นพพร อุสิทธิ์ น้องเขย “ลูกหมี” นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ กวาดไปถึง 147,068 คะแนน ชนะ ศิริศักดิ์ อ่อน ละมัย บิดาของ สราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ไปเพียง 59,115 คะแนนเท่านั้น
เหตุที่ กกต.ต้องให้ลงคะแนนใหม่ถึง 64 หน่วยเลือกตั้ง ครั้งนี้เพื่อเป็นการ “ป้องกันตัวเอง” โดยเฉพาะ ทุกหน่วยที่ กกต.ให้ลงคะแนนใหม่ มีสาเหตุเหมือนกันทั้งหมดคือ คะแนนไม่ตรงกับผู้ใช้สิทธิ์
ปมเหตุที่คะแนนไม่ตรงกับผู้ใช้สิทธิ์ ก็เพราะเกิดความเข้าใจผิดเรื่องบัตรเลือกตั้ง ซึ่งครั้งนี้มี 2 ใบเหมือนทุกครั้ง คือ นายก อบจ. 1 ใบ และสมาชิก อบจ. 1 ใบ แต่เกิดปัญหาจากเจ้าหน้าที่จ่ายบัตรเลือกตั้งมั่ว และ มีหลายกรณีที่ประชาชนกา 1 ใบ และเก็บกลับบ้าน 1 ใบ เพราะคิดว่าเป็นใบต้นขั้ว
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย กกต.จึงจัดให้มีการลงคะแนนใหม่ เพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้องในภายหลัง
การสั่งลงคะแนนใหม่ ไม่เกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งของผู้สมัคร เรื่องทุจริตยังต้องรอว่าจะมีโดนสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในกี่จังหวัด ซึ่งเส้นตาย กกต.จะต้องมีคำสั่ง ออกมาภายในวันที่19 กุมภาพันธ์นี้เป็นวันสุดท้าย เนื่องจากเงื่อนไขตามกฎหมายต้องรับรองผลการเลือกตั้งภายใน60 วันนับวันเลือกตั้ง
ขณะนี้ กกต. ประกาศรับรอบผลเลือกตั้งนายกอบจ. ไป29 จังหวัดเท่านั้น เหลืออีก47 จังหวัด ที่รอลุ้นจะถูกหวยให้เลือกตั้งใหม่ เพราะเหตุทุจริต ซึ่งมีการร้องเรียนเข้ามามาก จึงมีแนวโน้มที่หลายจังหวัด กกต. จะมีคำสั่งให้เลือกตั้งนายกอบจ. รอบใหม่