สะพัด – สุดสะพรึง “อาถรรพณ์เจ้าพ่อเขาใหญ่” ลือหัวหน้าอุทยานฯ คนใหม่ลบหลู่ยกเลิกพิธีบวงสรวงเจ้าป่าเจ้าของจึงเกิดเหตุร้ายแรงมีคนเอาชีวิตไปทิ้งเขาใหญ่ติดกัน 2 ศพ ขณะที่พบสัญญาณความขัดแย้งปลูกรากฝังลึกของขบวนการอิทธิพลเริ่มเกียร์ว่าง-ปล่อยข่าวทำลายคนดีมีฝีมือ
ภายในสัปดาห์เดียวเกิดเรื่องชวนขนหัวลุกที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายสิบปีโดยศพแรกที่สังเวยอาถรรพณ์เขาใหญ่จากกรณีนายประโยชน์ ชิตติบุญ อายุ 80 ปีนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในธรรมชาติและเดินทางไปกางเต็นท์พักผ่อนที่อุทยาทนแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นประจำถูกพลายดื้อ ช้างป่าบุกเข้าไปใช้งวงจับร่างฟาดกับต้นไม้เสียชีวิตคาที่เหตุเกิดบริเวณลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ เมื่อกลางดึกวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ดังกล่าวนอกจากสร้างความตื่นตกใจไปทั่วเขาใหญ่แล้วยังรวมถึงนักท่องเที่ยวที่กำลังคิดไปพักผ่อนสัมผัสอากาศหนาวยังอุทยานแห่งนี้ และแน่นอนว่าคนไทยอีกไม่น้อยต่างพากันตระหนกเพราะปัญหาช้างทำร้ายคน หรือคนทำร้ายช้างดูเหมือนว่าเพิ่มความรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันเวลา ทุกสถานที่แม้แต่ในเขตความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ยังไม่สามารถหาความปลอดภัยได้
ศพนายประโยชน์ เพิ่งผ่านการฌาปนกิจไปหยกๆ การสอบสวนหาสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ บ้างก็ว่ามาจากพลายดื้อหงุดหงิดที่ได้กลิ่นผลไม้จากรถของคนตายแต่ไม่สามารถกินได้จึงก่อนเรื่องขึ้น บ้างก็ว่าน่าจะมาจาก “คอลล่า”หรือสายคล้องคอช้างที่ใช้ระบบ จีพีเอส.จับการเคลื่อนไหวเพราะเพิ่งติดให้เมื่อไม่กี่วันก่อนเกิดเรื่องโดยทีมสัตวแพทย์ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ “อาจเกิดความผิดพลาดจากการใช้ปืนลูกดอกยิงใส่พลายดื้อแบบประจัญหน้า ทำให้เขาฝังใจและมีความอาฆาตมนุษย์เพราะวิธียิงช้างให้สลบต้องซุ่มแอบไม่ให้เขารู้ตัว มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจ”มีผลกระทบตามมาภายหลัง” แหล่งข่าวคนหนึ่งให้เหตุผล
ระหว่างความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกเมื่อตอนสายของวันที่ 21 ม.ค.2564 หลังหมอกจางพบศพนายทัชพงศ์ พงศ์มี อายุ 27 ปีชาวอ่างทอง นอนเสียชีวิตอยู่ริมด้านล่างของหน้าผาเดียวดาย จนท.จึงรายงานนายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทราบและร่วมเดินทางไปสอบสวนพบรถ จยย.ทะเบียน กรุงเทพมหานคร 9 กษ 4484 จอดอยู่บริเวณลานในสภาพฝุ่นเริ่มจับสอบถามได้ความว่ารถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งอยู่ 2 วันแล้วแต่ไม่มีใครเอะใจกระทั่งเช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวมาชมวิวกระทั่งช่วงสายหมอกจางจึงเห็นศพนายทัชพงศ์
เบื้องต้นอุทยานฯประสานไปยังตำรวจท้องที่ พร้อมแจ้งไปยังญาติทราบคร่าวๆว่านายทัชพงศ์ เดินทางออกจากสมุทรปราการ มาได้ประมาณ 3 วันแล้วโดยครั้งสุดท้ายโทรฯไปหาพี่สาวจากนั้นก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ สันนิษฐานเหตุการตายของนายทัชพงศ์ ไว้กว้างๆคือเซลฟี่จนพลัดตกลงมา หรือเป็นการฆ่าตัวตาย เป็นการฆาตกรรมซึ่งต้องรอการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดและผลการผ่าพิสูจน์ศพ
อย่างไรก็ตามการตายของศพที่ 2 ในห้วงเวลาติดต่อกันไม่กี่วันเกิดบรรยากาศความหวาดวิตกให้กับหลายชีวิตบนเขาใหญ่ไม่น้อยโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่และครอบครัวซึ่งมีอยู่นับพันคนต่างพากันซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุอาเพศนี้น่าจะมาจากคำสั่งของหัวหน้าอุทยานเขาใหญ่แห่งชาติ คนใหม่ที่ออกหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงาน และชมรมย์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเขาใหญ่ว่าวันที่ 26 ม.ค.นี้จะยกเลิกพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเขาใหญ่ จากเดิมที่จะมีแขกเหรื่อร่วมนับพันจะลดลงเหลือเพียง จนท.ที่เกี่ยวข้องโดยตัดพิธีทางพราหมณ์กับสงฆ์ออกไปเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด – 19
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้นได้กระทำติดต่อมานานถึง 40 ปีทั้งนี้เชื่อกันว่าเจ้าพ่อเขาใหญ่คือเทพเทวดาคอยปกปักรักษาผืนป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกันถึง 1,380,000 ไร่กินพื้นที่ของ 3 จังหวัดคือสระบุรี นครนายก และนครราชสีมา เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญมีทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าชุกชุมและเป็นมรดกโลก แต่ในด้านมืดมีขบวนการล่าสัตว์ ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า บุกรุก และผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวในทางมิชอบ
นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิวงศานุยุต ซึ่งเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นั้นเพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยการผลักดันของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในฐานะลูกน้องคนสนิทในฐานะหัวหน้าสำนักงานอธิบดีฯ ขณะที่ตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ผ่านๆมาในยุคของนายธัญญา ไม่เคยมีลูกน้องสายตรงมาประจำเขาใหญ่เลยเช่นนายครรชิต ศรีนพวรรณ และ พ.ต.นรินทร์ ปิ่นสกุล โดยคนแรกรับหน้าที่อยู่นานถึง 5 ปีส่วนคนหลังนายจตุพร บุรุษพัฒน์ เป็นผู้ผลักดันมารับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2563 กระทั่งนายอดิศักดิ์ คนของอธิบดีกรมอุทยานฯคนปัจจุบันมาเสียบตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สำเร็จ