MGR Online - รองประธาน กมธ.ตร.เดินทางมาติดตามคดี “หมู่ริว” ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต ยิงเจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรมเสียชีวิต ญาติยืนยันขอเปลี่ยนพนักงานสอบบสวน
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ สน.ดุสิต น.ส.จิตภัสร์ หรือตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร มาติดตามกรณีที่นายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล เจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรม ที่ถูก ส.ต.อ.ธีรยุทธ จันทร์คง หรือหมู่ริว ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต ยิงปืนใส่จนเสียชีวิตหน้า สน.ดุสิต เมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.จตุพร พลภักดี ผกก.สน.ดุสิต เข้าร่วมหารือกับนางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น มารดา และญาติของนายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล ผู้ตาย โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
นางจันทร์เพ็ญกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อร้องขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน และโอนสำนวนให้กองบังคับการปราบปรามทำคดีแทน ตอนแรกตนยังไม่เข้าใจกระบวนการทางกฎหมาย แต่ตอนนี้ได้รับความกระจ่างจาก สน.ดุสิตแล้ว หลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของศาล โดยยังยืนยันจะเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน
น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า ได้ประสานตำรวจนครบาลเรื่องคดีเพื่อพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายและคู่กรณี ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจ กมธ.ตำรวจจะคอยติดตามความคืบหน้าคดี เชื่อมั่นว่าจะมอบความเป็นธรรมให้ทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ก็เตรียมจะตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบโดยเร็วที่สุดเพราะเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญต่อสังคม
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า บช.น.ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ได้รับทราบปัญหาความไม่สบายใจ ยืนยันว่าการดำเนินคดีทุกคดีเรายึดข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นตำรวจหรือใครก็ตาม ต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียวเท่านั้น ขอให้ครอบครัวเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของตำรวจ สน.ดุสิต นอกจากนี้ก็จะตั้งคณะกรรมการระดับกองบัญชาการพิจารณาวินัยร้ายแรงอีกชุด โดยมีรองผู้บัญชาการเป็นหัวหน้าคณะร่วมกับตำรวจอีกหลายนาย และจะเร่งทำงานให้เร็วตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด หากมีความสงสัยใดก็ให้ประสาน พ.ต.อ.อรรถวิทย์ รอง ผบก.น.1 โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับการสั่งให้ ส.ต.อ.ธีรยุทธ ออกจากราชการ ต้องดูจากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง หากส่อจะไปยุ่งเหยิงคดี หรือข่มขู่พยานทำให้คดีเสียหาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนแน่นอน เบื้องต้นตอนนี้ให้พ้นจาก สน.ดุสิต ไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นแล้ว