พ่อโร่เข้าแจ้งความลูกชาย 2 คนถูกลักพาตัวไปทิ้งในบ้านร้าง ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ลงพื้นที่ไล่ตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางไม่พบสิ่งผิดปกติ เค้นสอบถามเด็กได้ความจริงที่แท้กุเรื่องขึ้นเนื่องจากเที่ยวเล่นจนเย็นผิดเวลา กลัวพ่อลงโทษ
จากกรณีเมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 6 มกราคม 2564 น.ส.ศิริลักษณ์ บัวคำ อายุ 32 ปี พร้อมด้วยนายสมัย กล้ำทอง อายุ 42 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.สวัสดิ์ คงแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ว่าลูกชายของทั้งสองคนได้ถูกลักพาตัวไปจากซอยรังสิต-นครนายก 39 (ซอยเกลียวทอง) ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แต่ตอนนี้เจอตัวแล้ว โดยเด็กถูกนำไปทิ้งไว้ที่บ้านร้างภายในซอยรังสิต-นครนายก 3 (ซอยช้างทอง) ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษด้วย
จากการสอบถาม ด.ช.อ้น เล่าว่า ตนกับเพื่อนเดินไปซื้อขนมที่ร้านค้าใกล้บ้าน ขณะกำลังเดินกลับได้มีผู้ชาย 3 คนแต่งชุดสีดำขับรถตู้มากระชากตัวพร้อมทั้งเอาผ้าคลุมหัวบอกห้ามส่งเสียงไม่งั้นจะทำร้าย ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าส่งเสียง กระทั่งชายทั้ง 3 คนขับรถพามาจอดที่บ้านร้างพร้อมกับบังคับให้ขึ้นไปอยู่บนบ้านชั้นสองและขู่ว่าใครส่งเสียงไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย บอกว่าให้รออยู่ตรงนี้ห้ามไปไหน เดี๋ยวจะมารับพาไปที่อื่นต่อ และเมื่อชาย 3 คนขับรถออกไปตนกับเพื่อนจึงเดินลงมาด้านล่างของบ้านก่อนที่จะข้ามไปบ้านอีกหลังและหลบซ่อนตัวอยู่บนชั้นสอง และจังหวะนั้นได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์จึงได้ลุกขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพ่อจึงได้รีบร้องเรียกแล้วรีบวิ่งลงมาหาพ่อที่ด้านล่างด้วยความดีใจ
น.ส.ศิริลักษณ์เล่าว่า ตนเป็นแม่ของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ มาทราบว่าลูกหายประมาณ 15.30 น. ลูกชายเดินไปซื้อขนมกับ ด.ช.อ้น (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ลูกของนายสมัย โดยก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 15.00 น. เด็กทั้งสองเดินไปซื้อขนมที่ร้านค้าห่างจากบ้านประมาณ 80 เมตร แล้วก็ไม่พบอีกเลย ได้ตะโกนเรียกหาตามบ้านจนทั่วแต่ก็ไม่พบ จึงได้ให้ประธานชุมชนประกาศเครื่องขยายเสียงตามหาและช่วยกันออกติดตามแต่ก็ไร้วี่แวว กระทั่งเวลา 17.00 น. พ่อของ ด.ช.อ้น ได้ขับมอเตอร์ไซค์มามีเด็กทั้งสองคนมาส่งพร้อมทั้งบอกว่าเด็กถูกขังไว้ที่บ้านร้างซอยใกล้เคียง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ หลังได้รับแจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเส้นทางของคนร้ายและให้ชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะขับรถเข้ามาลักเด็กและก่อนขับหลบหนีไป พร้อมเร่งติดตามตัวคนร้ายทั้งสามให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ม.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กว่า 10 นาย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในซอยที่เกิดเหตุ และซอยที่คนร้ายนำเด็กมาทิ้งไว้ และหาพยานหลักฐานที่เด็กอ้างว่าถูกมัดมือด้วยเชือกและใช้ผ้าคลุมหัวไว้ ก่อนที่จะช่วยกันแก้มัดแล้วนำไปทิ้งไว้ที่หลังบ้านที่เกิดเหตุ โดยจากการตรวจสอบโดยรอบยังไม่พบ และถ้าเด็กทั้งสองจะเดินทางถึงบริเวณนี้ก็ต้องปีนกำแพงที่มีความสูงประมาณ 2 เมตร และต้องเดินข้ามพงหญ้าที่มีน้ำขังซึ่งก็เป็นไปได้ยาก และหากเด็กเองจะเดินออกท้ายซอยและหน้าซอยเพื่อเดินมายังบ้านร้างเองก็ไกลมาก ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทางด้านชาวบ้านในซอยที่เกิดเหตุ ต่างพากันตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะในซอยนี้ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน โดยชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า ได้ยินประธานชุมชนประกาศออกเครื่องขยายเสียงของหมู่บ้านว่ามีเด็ก 2 คนหายตัวไป ให้ช่วยกันออกตามหาตั้งแต่เมื่อวาน มาทราบข่าวอีกครั้งก็คือเด็กลูกจับขึ้นรถตู้ไปแต่เจอตัวแล้ว ตนเองก็มีหลานหลายคน ก็จะให้ลูกหลานเล่นอยู่แต่ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย ปกติตนก็เห็นเด็ก 2 คนนี้มาเล่นอยู่แถวนี้ประจำ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาลักพาตัวไป
ทางด้าน พ.ต.ท.ชาติ แสงวงศ์ สารวัตรสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อคืน ก็ได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ แล้ว และในวันนี้ตนเองและทีมงานได้มาพูดคุยกับเด็กทั้งสอง และให้พามาชี้จุดเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานที่เป็นผ้าคลุมหัวและเชือกที่เด็กอ้างว่าโดนคลุมหัวและมัดมือ แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการตัดประเด็นอะไรทิ้ง และเร่งสืบสวนสอบสวนคดีนี้ให้คลี่คลาย หากพบรถต้องสงสยหรืออะไรก็ตามทางตำรวจจจะเร่งดำเนินการติดตามมาสอบสวนทันที
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี รอง ผกก.ส สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า จากการสอบถามและพูดคุยกับเด็กทั้งสองยอมรับสารภาพว่าทั้งสองได้แต่งเรื่องขึ้นมา เนื่องจากว่าทั้งสองได้เดินมาเล่นแถวนี้จนเกินเวลา และไม่รู้จะทำอย่างไร จนเห็นพ่อขับรถมาพอดีจึงได้เริ่มแต่งเรื่องขึ้นว่าถูกลักพาตัวมาเนื่องจากกลัวว่าพ่อแม่จะทำโทษที่ออกมาเล่นจนเกินเวลาจึงกุเรื่องขึ้นมาเพื่อไม่ให้ถูกทำโทษ