“อรรถพล ใหญ่สว่าง” เล็งเรียกประชุม ก.อ. ถกวาระด่วน หลัง เลขาฯ ครม.ส่งหนังสือ ระบุองคมนตรีสั่งทบทวนเสนอรายชื่อแต่งตั้ง “เนตร นาคสุข” ผู้สั่งไม่ฟ้อง “วรยุทธ อยู่วิทยา” เป็นอัยการอาวุโส และ “ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม” ที่เคยถูกดำเนินคดีขับรถขณะมึนเมา เป็นผู้ตรวจอัยการ
วันนี้ (2 ม.ค.) จากกรณีที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด โดยระบุว่า สำนักงานองคมนตรีให้พิจารณาถึงความเหมาะสมและข้อมูลการเสนอบัญชีรายชื่อ นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นอัยการอาวุโส เเละ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ขึ้นเป็นผู้ตรวจการอัยการ เพื่อให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก่อนส่งไปยังสำนักงานองคมนตรีเพื่อพิจารณาก่อนที่จะเสนอโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนั้น
นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) กล่าวว่า กรณีที่มีหนังสือจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถึงอัยการสูงสุดนั้น กรณี นายเนตร ตนได้ทราบเรื่องในวันที่ 29 ธ.ค. 2563 ซึ่งเป็นวันที่มีการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ส่วนกรณีของ นายปรเมศวร์ พึ่งได้รับทราบวันที่ 2 ม.ค.นี้ จากการเสนอข่าวของสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญในวันเปิดทำการราชการ วันที่ 4 ม.ค. 2564 ตนจะเรียกอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ในฐานะเลขา ก.อ.เข้ามาหารือเพื่อที่จะเรียกนัดประชุม ก.อ.วาระพิเศษโดยเร็วที่สุด
สำหรับรายละเอียดหนังสือดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือ
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นร.0508/7419
เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการอัยการและอัยการอาวุโส ถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด
โดยมีข้อความสรุปว่า กราบเรียนอัยการสูงสุด ตามที่ขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการอัยการและอัยการอาวุโสให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 975 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งในจำนวนดังกล่าวรวมถึง นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด (ข้าราชการอัยการชั้น 7) ดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโสสำนักงานคดีอาญาพระโขนง (ลำดับที่ 871) ตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น
โดยที่มีกรณีปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการอัยการได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัย นายเนตร นาคสุข กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในคดีขับรถยนต์ชนข้าราชการตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชนโดยทั่วไป
ดังนั้น เพื่อให้การนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาในเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการอัยการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและรอบคอบ ประกอบกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งแนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องที่ต้องนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระมหากรุณาว่าเรื่องที่เสนอต้องมีข้อมูลอันเป็นที่ยุติชัดเจนก่อนที่จะส่งเรื่องมาเพื่อขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไปตามหนังสือที่อ้างถึง
ในการนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงขอทราบข้อมูลข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ว่า ได้มีการพิจารณาอันเป็นที่ยุติที่ชัดเจนแล้วหรือไม่ประการใด ทั้งนี้ ขอได้โปรดแจ้งข้อมูลข้อเท็จจริงพร้อมผลการพิจารณาที่เกี่ยวข้องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไปจึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป
โดย นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุดได้มีการลงนามรับหนังสือเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 63
ต่อมาในวันที่ 24 ธ.ค. 63 ได้มีหนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีก 1 เรื่อง ส่งถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการอัยการและอัยการอาวุโส มีข้อความสรุปว่า ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีขอทราบข้อมูลข้อเท็จจริงพร้อมผลการพิจารณากรณี นายเนตร นาคสุข กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในคดีขับรถยนต์ชนข้าราชการตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชนโดยทั่วไป จึงขอทราบว่ามีการพิจารณาสอบสวนความผิดทางวินัยเป็นที่ยุติชัดเจนเเล้วหรือไม่ประการใด
ทางสำนักงานเลขาธิการได้รับแจ้งจากทางสำนักงานองคมนตรี ว่า มีข้อเท็จจริงปรากฏต่อสาธารณะ กรณี นายเนตร นาคสุข ผู้ได้รับการเสนอเเต่งตั้งอัยการอาวุโสอยู่ระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัย และ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ผู้ได้รับการเสนอชื่อเเต่งตั้งให้ดำรงตำเเหน่งผู้ตรวจการอัยการ เคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้น และอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีขับรถยนต์ในขณะมึนเมา เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จึงขอให้ยืนยันความถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งข้อมูลซึ่งเหตุผลใดๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการนำความกราบบังคมทูลทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเเต่งตั้งต่อไป ในการนี้ขอได้โปรดเเจ้งข้อมูล ข้อเท็จจริง พร้อมผลการพิจารณาที่เกี่ยวข้องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อแจ้งสำนักงานองคมนตรีใช้เป็นข้อมูลในการนำความกราบบังคมทูลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้บัญชีรายชื่อที่ถูกเสนอไปพร้อมกับนายเนตร เเละนายปรเมศวร์ ทั้ง 975 รายชื่อ ถูกส่งกลับมาเพื่อพิจารณาดำเนินการตามหนังสือจากสำนักเลขา ครม.ก่อนพิจารณาดำเนินการอีกครั้ง