ข่าวลึกปมลับ : ธนาธร แพ้ยับ ศึก อบจ. บทสั่งสอนจากสังคมไทย

“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2563 ตอน ธนาธร แพ้ยับ ศึก อบจ. บทสั่งสอนจากสังคมไทย



ผลการเลือกตั้งท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรืออบจ. เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 ธันวาคม หรือศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ. คนจากเครือข่ายพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาล สมหวังในภาพรวมมากที่สุด ได้ชัยชนะมาทุกภาค รวมแล้วได้มากกว่าพรรคการเมืองอื่น

พรรคเพื่อไทยส่งทั้งหมด 25 จังหวัดได้มา 9 จังหวัด แต่ถ้ารวมคนในเครือข่ายก็อาจจะแตะที่ตัวเลข 20 กว่าเก้าอี้ แม้จะถือว่าได้เข้ามาต่ำกว่าเป้า แต่ก็แฮปปี้กันมากมาย เพราะที่ จ. เชียงใหม่ สามารถพานาย พิชัย เลิศพงศ์อดิศร เข้ามาได้ ทำให้ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคตัวจริงเพื่อไทย และน้องๆตระกูลชินวัตร ไม่หน้าแตก

ที่เชียงใหม่ ถือเป็นสมรภูมิใหญและสำคัญ เพราะเป็นการสู้กับพ่อเลี้ยงโต๊ะ นายบุญเลิศบูรณุปกรณ์ อดีตนายกอบจ. แชมป์เก่าหลายสมัย ที่แยกตัวออกมาจากทักษิณและเพื่อไทย มีการหาเสียงที่พุ่งเป้าเข้าใส่ทักษิณและพิชัย เลิศพงศ์อดิสร หรือส. ว. ก๊อง ไม่มียั้ง โดยพ่อเลี้ยงโต๊ะมี ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นแม่ทัพช่วยหาเสียง

จนกลายเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองตระกลูใหญ่ และเป็นสมรภูมิศึกชี้วัดกระแสความนิยมพรรคเพื่อไทยในเชียงใหม่ยังยิ่งใหญ่อยู่ในพ. ศ. นี้หรือไม่ ผลเลือกตั้ง ก็ปรากฏว่า คนเสื้อแดง และคนเชียงใหม่ยังยืนข้างทักษิณ

ส่งให้ส. ว. ก๊องที่ถูกโจมตีจุดอ่อน ไม่ใช่คนเชียงใหม่แท้ และมีปัญหาอีกหลายแผล ขึ้นเป็นนายกอบจ. เชียงใหม่ แต่ทักษิณและคนชินวัตร รวมทั้งส. ว. ก๊อง ก็สะบักสะบอมไปไม่น้อย กับการเลือกตั้งนายกเล็กครั้งนี้

ขณะที่จ. เชียงราย แม้ว่า ตัวแทนคนเพื่อไทยสู้กันเอง ระหว่าง วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลูกสะไภ้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ต้องแพ้แก่อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ซึ่งสะท้อนถึงบารมีของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังมีปัญหาไม่แน่จริง

พรรคม้ามืดที่ได้เก้าอี้นายกอบจ. ไปเป็นลำดับรองจากเพื่อ นับดูแล้วก็คือพรรคภูมิใจไทย ที่คนในเครือข่ายกวาดเก้าอี้ไปนับสิบกว่าจังหวัด แถมได้นายกอบจ. จังหวัดใหญ่ อย่างที่ภาคอีสาน ยึดได้ที่จ. นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ บึงกาฬ และปราจีนบุรี ก็ใช่ ที่ภาคใต้ก็ยึดได้ที่สตูล และระนอง เอาชนะเหนือคนพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

สำหรับพรรคเก่าแก่อย่าง ประชาธิปัตย์ยึดจังหวัดได้เป็นลำดับรองลงมา แม้ชิงเก้าอี้นายกอบจ. มาไม่มากแต่ก็ไม่เสียหน้า เนื่องจากพื้นที่เป้าหมายอย่างจ. สงขลา สู้กับคนของพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นตัวเด่นคือ พันเอก พิเศษ สุชาติ จันทรโชติกุล แต่พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายไพเจน มากสุวรรณ์ สามารถโค่นคู่แข่งมาได้แบบสู้กันมันส์หยด

กลุ่มการเมืองที่ผิดหวังมากสุด กับการเลือกตั้งนายกอบจ. ครั้งนี้ เพราะทุกจังหวัดแพ้ยับเยิน ก็คือคณะก้าวหน้า ของสามหัวหอก มี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ,ปิยบุตร แสงกนกกุล และ ช่อ พรรณิการ์ วานิช ที่ส่งคนลงสมัครนายกฯอบจ.ในนามพรรค 42 คน ทั่วประเทศ รวมถึง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอีกจำนวนมาก

ผลปรากฎว่า นายกอบจ. แพ้รูดทั้งแผ่นดิน ส่วนสมาชิกอบจ. ได้มาทั่วประเทศ55 ที่นั่ง ก็ยังถือว่ากู้หน้ามาได้บ้าง มีที่จ. ฉะเชิงเทรากับอุดรธานีได้เข้าสภาจังหวัดที่ละ10 คน

เมื่อผลเลือกตั้งนายกฯอบจ.ออกมาโดย คณะก้าวหน้า ไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว ถือเป็นพ่ายแพ้แบบยับเยินของ ธนาธร-ปิยบุตร และคณะก้าวหน้า ที่จริงๆ คณะก้าวหน้ามีการเตรียมตัวในสนามท้องถิ่น นานกว่าพรรคอื่น และกลุ่มอื่น

เพราะมีการวางแผนเตรียมตัวกันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ มีการคิดแคมเปญหาเสียง ทำนโยบาย หาตัวผู้สมัคร มาตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงต้นปีนี้ ตั้งแต่ก่อนพรรคอนาคตใหม่โดนยุบพรรคด้วยซ้ำ แล้วพออนาคตใหม่โดนยุบ เลยมีการย้ายที่เตรียมการไว้ทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น มาอยู่กับคณะก้าวหน้า แทน

เหตุความปราชัยในสนามนายกฯอบจ.ของ ธนาธร ปิยบุตร และคณะก้าวหน้า สะท้อนว่ากระแส ธนาธร -อนาคตใหม่เดิม มีปัญหากระแสความนิยมคลั่งไคล้ไม่เหมือนตอนเลือกตั้งใหญ่ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งมองกันว่าเป็นผลลัพธ์จากดารถูกมองโยงไปถึงการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว ในช่วงที่ผ่านมา

ที่มีภาพของ ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ คอยหนุนหลัง มาตั้งแต่เป็นแฟลชม็อบในรั้วมหาวิทยาลัย จนมาเป็นม็อบคณะราษฎร ซึ่งการชุมนุมม็อบเด็กโหมกระแสโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหนัก ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่พอใจ

การการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นเวทีการเมืองที่ผ่านถ่ายทอด การสั่งสอนของคนไทย ที่ต่อต้าน ม็อบสามนิ้วและกลุ่มก้าวหน้า โดยการไม่เลือกคนของคณะก้าวหน้า นอกจากไม่ชนะที่ไหนเลย ยังมีตัวอย่างเกิดที่ ระนอง ส.อบจ. ที่มีคนของคณะก้าวหน้า เป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวคะแนนยังแพ้คะแนนโนโหวต จนต้องจัดเลือกตั้งใหม่

ภายหลังที่รู้ผลเลือกตั้ง ธราธรแถลงยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ก่อนหน้าได้มีการโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ระบุว่า "ผลการเลือกตั้งอบจ.นี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยยังไม่ยอมเปิดใจ และยังไม่พร้อมสำหรับอนาคตที่ดีกว่า”

ความคิดของธนาธรที่แสดงออกมา ย่อมคิดได้ว่าเขายังขาดการสำรวจตัวเอง และยังไม่รู้สึกรู้สากับถูกประชาชนสั่งสอนให้บทเรียนในครั้งนี้แต่อย่างใด

เอาเถอะ... ถ้าธนาธรและคณะก้าวหน้า คิดว่าพวกตนเลิศล้ำอำไพกว่าพรรคการเมืองอื่น ก็อย่างรีบถอยหรือถอดใจเสียก่อน ลองลงสู้ในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยาดูอีกที แล้วจะได้รู้!