ดาราหนุ่มแจ้งจับรุ่นน้องมหา'ลัยหลอกขายไอโฟน

MGR Online -“เพียว พรรณเชษฐ์” นักแสดงเรื่อง “กุหลาบเกราะเพชร” แจ้งจับรุ่นน้องมหาวิทยาลัยหลอกขายไอโฟน โอนเงินให้แล้วกลับไม่ได้ของ ซ้ำหลอกนักกีฬาอีสปอร์ตจะพาเข้าค่ายเลื่อนระดับ สูญเงิน 7.5 หมื่น และมีกรณีหลอกลวงต้มตุ๋นอีกหลายราย ความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. นายพรรณเชษฐ์ ปัญญาโชคไพศาล ดารานักแสดง พร้อมด้วย นายธีรดนย์ จิตนาวสาร นักกีฬาเกมอีสปอร์ต พร้อมด้วย ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย 4 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีชายหนุ่มหน้าตาดีรายหนึ่ง หลังหลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนและซื้อสินค้าต่างๆ ด้วยกลโกงหลากหลายวิธี จนได้รับความเสียหายเป็นเงินรวมกว่า 2 ล้านบาท โดยนำบันทึกการสนทนาการซื้อขายสินค้า, คลิปเสียงชักชวนร่วมลงทุนมอบไว้เป็นหลักฐาน

นายธีรดนย์ กล่าวว่า รู้จักกับชายคนนี้ หลังมีรุ่นน้องคนหนึ่งแนะนำให้มาเป็นโค้ชดูแลการฝึกเพื่อเลื่อนระดับชั้น โดยชายคนนี้อ้างว่ามีเส้นสายสามารถพาไปเข้าค่ายบูสท์แคมป์ได้ โดยเสียค่าใช้จ่าย 15,000 บาท หลังตอบตกลง ชายคนนี้ก็มักอ้างเรื่องให้ต้องจ่ายเงินอีกหลายครั้ง จนยอดเงินไปถึง 75,000 บาท ก็เริ่มจ่ายไม่ไหว หลังสอบถามไปยังสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการเข้าค่ายฝึก สมาคมก็ยืนยันว่า ไม่ได้จัดกิจกรรมที่ชายคนนี้อ้างมาแต่อย่างใด และเมื่อนำเรื่องนี้ไปคาดคั้น เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเจตนาฉ้อโกงเงินไป และจะทยอยคืนเงินให้ ซึ่งตนก็ได้รับมาบางส่วน แต่จากนั้นก็เงียบหาย เมื่อทวงถามไปก็จะบ่ายเบี่ยง

ขณะที่ นายพรรณเชษฐ์ กล่าวว่า รู้จักกับชายคนนี้ เพราะเป็นรุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน และเห็นว่า มักโพสต์ขายสินค้าอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งช่วงที่มีข่าวว่าจะมีการขายไอโฟน 12 ซึ่งตนกำลังสนใจ จึงสอบถามรุ่นน้องคนนี้ ก็บอกว่า สามารถสั่งซื้อจากต่างประเทศได้ในราคา 40,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นที่ตนต้องการจึงสั่งจองล่วงหน้าไป แต่ทุกครั้งที่มีการติดตามสินค้าก็มักจะบ่ายเบี่ยง และอ้างติดขัดเงินในบัญชีถูกอายัด ต้องใส่เงินให้ครบยอดที่ธนาคารกำหนด จึงขอยืมเงินเพิ่มซึ่งตนก็ให้ไป แต่จนถึงวันที่โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ออกวางจำหน่ายในประเทศไทย ตนก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์มือถือ และมาทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกหลอกขายสินค้าเป็นจำนวนมาก เมื่อทวงถามต้องการเงินคืน ก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่สามารถทำได้ และยังท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดีด้วย

นายพรรณเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังนำชื่อชายคนนี้ไปตรวจสอบในโลกออนไลน์ ก็พบประวัติเคยฉ้อโกงมาแล้วหลายคดี และพบมีผู้เสียหายปัจจุบันรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ ซึ่งจากการสอบถามในกลุ่ม ก็พบมีพฤติการณ์หลอกลวงในแบบอื่นๆ อีก เช่น หลอกขายสินค้าแบรนด์เนม แต่ไม่ส่งสินค้าให้, หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ, หลอกตีสนิทยืมเงินหญิงสาวผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ พบความเสียหายตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลายแสนบาท รวมความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงเดือนมีนาคมถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังพบมีพฤติการณ์ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือญาติบางราย หากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความ หรือโพสต์ประจานลงโซเชียลมีเดีย ส่วนเหตุที่ทำให้แต่ละคดีล่าช้านั้น เพราะว่าหากผู้เสียหายคนใดจะแจ้งความ ชายคนดังกล่าวก็จะพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยคืนเงินบางส่วน เพื่อให้ผู้เสียหายมีความหวังว่าจะได้เงินที่เหลือกลับคืนมา และหากถูกอายัดเงินในบัญชี ก็จะใช้เรื่องนี้ไปกดดันผู้เสียหายคนอื่นๆ ว่า ไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ เพราะเงินถูกอายัด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด ก่อนประมวลเรื่องราวส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป