xs
xsm
sm
md
lg

เผา “กัญชา” ของกลางปนเปื้อน นำไปวิจัยทางการแพทย์ไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคี เผาทำลายกัญชาปนเปื้อนสารเคมีและเชื้อรา กว่า 542 กิโลกรัม พบที่ผ่านมาสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ผลิตน้ำมันกัญชา รวม 856,000 ขวด

วันนี้ (4 ธ.ค.) ณ ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (รองเลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานในโครงการทำลายยาเสพติดกัญชาของกลางที่ไม่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ได้ จำนวน 542 กิโลกรัม โดยมี พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุสิก ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1, พ.ต.อ.อนุราช จิตศิล รอง ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1, นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และหน่วยงานภาคี เป็นสักขีพยานในการเผาทำลาย

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ขออนุญาตครอบครองกัญชาของกลางไว้ใช้ประโยชน์จากทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2562 จำนวนกว่า 18 ตัน โดย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ให้การสนับสนุนกัญชาของกลางเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และงานวิจัยกับหน่วยงานของรัฐและสถาบันการศึกษาไปแล้ว 15 แห่ง จำนวนกว่า 3.8 ตัน โดยกัญชาที่นำมาเผาทำลายครั้งนี้ เป็นกัญชาที่มีสารปนเปื้อนโลหะหนัก และสารฆ่าแมลงที่เกินค่ามาตรฐาน รวมถึงมีเชื้อรา ซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์

“โดยเป็นการเผากัญชาส่วนสุดท้ายจากที่ขออนุญาตครอบครองกัญชาของกลางไว้ใช้ประโยชน์จากทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2562 มีจำนวน 542 กิโลกรัม แบ่งเป็นกัญชาแห้ง 541 กิโลกรัม และเมล็ดกัญชา 1 กิโลกรัม ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ได้มีการเผาทำลายกัญชาของกลางแล้ว 2 ครั้ง ในเดือน ธ.ค. 62 และ เดือน มิ.ย. 63 รวมกัญชาที่เผาทำลายทั้งหมดกว่า 14 ตัน ส่วนวิธีการเผาทำลายกัญชาจะใช้ระบบการเผาแบบปิดด้วยเตาเผาไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น (Pyrolytic Incineration) ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศและสิ่งแวดล้อม”

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า ตามนโยบายรัฐบาล ได้มีการผ่อนปรนให้มีการใช้ประโยชน์กัญชา ทั้งในแง่ของการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนา และการผลิตเป็นยาเพื่อให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชามีสิทธิในการเข้าถึงกัญชาเพื่อการรักษา โดยกัญชาที่ทางสำนักงาน ป.ป.ส. ให้การสนับสนุนแก่หน่วยงานต่างๆ จำนวนกว่า 3.8 ตัน นั้น ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำไปศึกษาวิจัย เพื่อนำมาพัฒนายาต้นแบบใช้ในการรักษาผู้ป่วย และสามารถพัฒนาวิธีการสกัดสารสำคัญจากกัญชาด้วยการใช้สารอินทรีย์ น้ำมันพืช คาร์บอนไดออกไซด์ได้ หรือ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ และ กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำกัญชาดังกล่าวไปผลิตเป็นน้ำมันกัญชาสำหรับผู้ป่วยได้ รวมจำนวน 856,000 ขวด

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวอีกว่า ในอนาคต การขอรับการสนับสนุนกัญชาของกลางเพื่อการศึกษาวิจัยและใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เมื่อแจ้งขอสนับสนุนกัญชาของกลาง และได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว จะสามารถติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานที่เป็นผู้เก็บรักษาของกลางนั้น เช่น กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือหน่วยเก็บรักษาในพื้นที่ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีโดยตรง ส่วนสำนักงาน ป.ป.ส. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลด้านการตรวจพิสูจน์ทั้งปริมาณสารสำคัญและสารปนเปื้อนก่อนแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ไปให้หน่วยงานที่เก็บรักษา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการสนับสนุนกัญชาของกลางต่อไป ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือการนำผู้ป่วยจากการติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา สามารถติดต่อ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง








กำลังโหลดความคิดเห็น