MGR Online - พ่อของ “อาไท กลมกลิ๊ก” เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ขอลงบันทึกประจำวัน หลังถูกโครงการคนละครึ่งหักเงินเกินที่กำหนดในเงื่อนไข จนท.แจงระบบขัดข้อง จะคืนเงินให้ในวันรุ่งขึ้น แต่ไม่ได้คืนตามที่บอก
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ สน.โคกคราม นายสมนึก โอภาส หรือ บุญชู เชิญยิ้ม พ่อของอาไท กลมกิ๊ก ตลกเด็กชื่อดัง เข้าพบ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ ช่วยเรือง รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีนายสมนึกเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ของรัฐบาล แต่ถูกหักเงินซื้อของไม่เป็นไปตามเงื่อนไข
นายสมนึก กล่าวว่า ตนได้เข้าสมัครโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล ตั้งแต่เฟสแรกเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา การใช้จ่ายซื้อของไม่เคยมีปัญหา แต่เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนโอนเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่เป็นระบบชำระเงินตามโครงการคนละครึ่ง เพื่อเติมเงินเข้าระบบไป 2 ครั้ง ครั้งละ 100 บาท รวมตนมีเงินในแอปฯ เป๋าตังจำนวน 207 บาท
ช่วงสายวันเดียวกัน ตนได้ไปซื้อลังโฟมกับน้ำแข็ง รวมเป็นเงิน 150 บาท จากร้านค้าที่เข้าโครงการคนละครึ่งกับรัฐบาล แต่ตนถูกหักเงินไป 150 บาท เหลือเงินในแอปฯ เป๋าตัง 57 บาท ทั้งที่ตามเงื่อนไขโครงการคนละครึ่งตนจะถูกหักเงินแค่ 75 บาท ส่วนอีก 75 บาทโครงการคนละครึ่งจ่ายให้ หลังจากนั้น ระบบหักเงินผ่านแอปฯ เป๋าตังได้ส่งรายการใช้จ่ายมา พบว่าตนถูกหักเงิน 147 บาท รัฐบาลช่วย 3 บาท ตนจึงพิมพ์สอบถามไปที่แอดมินเพจของโครงการ ได้รับคำตอบกลับมาว่า ระบบเกิดขัดข้อง ให้รอประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลาตนสอบถามกลับไปอีก เพราะยังไม่ได้เงินคืน แอดมินตอบกลับมาว่า ระบบยังขัดข้องอยู่ จะกลับมาเหมือนเดิมคือวันที่ 19 พ.ย. แต่เมื่อวันที่ 19 พ.ย.เงินในแอปฯ ของตนก็ยังมีเท่าเดิม คือ 57 บาท ขณะที่ระบบสามารถใช้จ่ายได้ตามปกติเหมือนเดิม
นายสมนึก กล่าวอีกว่า วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านหลายรายที่โดนเหมือนตน แม้จะเป็นเงินไม่กี่บาท แต่ถ้ามีผู้เสียหายหลายราย ก็เป็นเงินจำนวนมาก ตนต้องการเอาหลักฐานไปยืนยันกับธนาคาร เพื่อขอเงินคืนและให้เป็นเคสตัวอย่าง ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพร้อมลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป