MGR Online - นายบุญเกื้อหนุน ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ม.110 เข้ามอบตัวต่อตำรวจ สน.ดุสิต เผยถูกดำเนินคดีไม่เป็นธรรม ไม่มีเจตนาขัดขวาง-ทำร้าย วันเกิดเหตุไม่ได้รับการแจ้งเตือนมีขบวนเสด็จฯ
จากกรณีศาลอาญาอนุมัติตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ให้ออกหมายจับ นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักกิจกรรมทางการเมือง ตามหมายจับที่ 1595/2563 และ 1596/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ในมาตรา 110 ผู้ใดกระทำการประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินี หรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบหกปีถึงยี่สิบปี ผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้นต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน จากกรณีขัดขวางขบวนเสด็จฯ ช่วงเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ สน.ดุสิต นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เดินทางมาพร้อมมารดา และ น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อมอบตัวตามหมายจับดังกล่าวต่อ ร.ต.อ.ธราดล วงศ์เจริญยศ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดุสิต
โดยนายบุญเกื้อหนุนได้ยืนชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ที่บริเวณทางเข้าโรงพัก และกล่าวก่อนเข้ามอบตัวว่า ขณะนี้ขอรอเพื่อนก่อนเนื่องจากยังไม่รู้ว่าเมื่อเข้ามอบตัวแล้วจะมีโอกาสออกมาเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องมาตรา 110 นอกจากจะเป็นคดีร้ายแรงยังเป็นคดีที่ไม่มีใครเคยหยิบมาใช้มาก่อนก็ค่อนข้างจะแปลกใจเหมือนกัน
นายบุญเกื้อหนุนกล่าวด้วยว่า การมามอบตัวตามหมายจับในข้อหานี้เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีเจตนาหลบหนีในวันที่เกิดเหตุต้องการชุมนุมอย่างสงบโดยมีการถือโทรโข่งจริง แต่ช่วงที่จะมีขบวนเสด็จฯ ไม่ได้รับการแจ้งเตือนแต่อย่างใด เมื่อเห็นขบวนก็ตั้งใจถอยห่างเพื่อให้ขบวนผ่านไปได้ แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว และมองว่าการถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 110 ไม่เป็นธรรม เพราะไม่มีเจตนาเข้าไปทำร้ายองค์ราชินี และรัชทายาท ยืนยันจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
ด้าน น.ส.พูนสุขเปิดเผยว่า ตามขั้นตอนของกฎหมายเมื่อผู้ต้องหาถูกออกหมายจับจะต้องเข้าพบพนักงานสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่าการนำกฎหมายมาตรานี้มาใช้ไม่มีมานานแล้ว และยืนยันเช่นกันว่าผู้ชุมนุมในพื้นที่ขณะเกิดเหตุไม่มีเจตนาทำลายขบวนเสด็จฯ ส่วนลูกความก็มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เป็นนักศึกษา และไม่คิดหลบหนี จึงเชื่อว่าจะได้รับการประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายบุญเกื้อหนุนจะเดินเข้าโรงพักเพื่อมอบตัวได้มีเพื่อนๆ ที่เดินทางมาให้กำลังใจเข้าสวมกอดและร้องไห้ ซึ่งนายบุญเกื้อหนุนได้หลั่งน้ำตาออกมาพร้อมกล่าวว่าขอให้ตนได้เสียสละ
จากนั้นในเวลาประมาณ 10.30 น. นายบุญเกื้อหนุนและมารดาพร้อมทนายความได้เดินเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับใช้เวลาประมาณ 45 นาที
ต่อมาเวลา 11.15 น. นายบุญเกื้อหนุนกล่าวภายหลังพบพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต โดยระบุว่าพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันในการติดต่อขอเข้ามอบตัวและเตรียมคุมตัวให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (ตชด.ภ.1) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาซึ่งตนยืนยันในความบริสุทธิ์ใจไม่มีเจตนาที่จะล่วงเกินไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายตั้งแต่ต้น ยังคงยืนยันตรงนี้และตนหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนต่อไปซึ่งในตอนนี้ตนได้สิ้นสุดการมีอิสรภาพแล้วตนก็ขอให้ทุกคนสู้ต่อไปตนจะไม่ทิ้งทุกคนไปไหนตนจะสู้ในชั้นศาลต่อไป
จากนั้นนายบุญเกื้อหนุนได้เดินขึ้นรถของตำรวจ สน.ดุสิต โดยมีตำรวจควบคุมตัวไปเพื่อเดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1