ศาลไม่ให้ประกัน “ตำรวจ ตม.สาวทอม” หึงโหด ตามยิงแม่ค้าออนไลน์เสียชีวิตในวัด หลังคุมตัวฝากขัง-นำส่งเรือนจำพิเศษธนบุรี ตามระเบียบ
วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ ได้คุมตัว ส.ต.ต.สิริวรรณ สำเร็จศิลป์ อายุ 37 ปี ผบ.หมู่ฝ่าย ตม.ขาเข้า ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาธนบุรี
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 05.41 น. ส.ต.ต.สิริวรรณ ผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนสั้นยิง น.ส.รินลดา พัฒนพันธ์ แม่ค้าขายของออนไลน์ อายุ 39 ปี เข้าที่ศีรษะจำนวน 4-5 นัด จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุบริเวณวัดนิมมานรดี แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.ก่อนจะหลบหนีไป จากนั้นผู้ต้องหาได้ติดต่อมอบตัวกับพนักงานสอบสวน จากนั้นจึงแจ้งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดให้ผู้ต้องหาทราบ และในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยานจำนวน 5 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาในประวัติการต้องโทษผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 21 ก.ย.- 2 ต.ต. 2563
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ประกอบกับคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัว คาดว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่น และในกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนมีความประสงค์ขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมจอภาพ ในการฝากขังครั้งต่อไปทุกครั้งที่เรือนจำพิเศษธนบุรี
ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่ค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมา ส.ต.ต.สิริวรรณ ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีตามคำร้องขอฝากขัง บ่งชี้ว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่ยำเกรงกฎหมาย กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจก่อเหตุอันตรายประการอื่น หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงมีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหา หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวส่งเรือนจำพิเศษธนบุรี